“ส.ส.ชลบุรี” แฉกลโกงเสื้อแดงหารายชื่อถวายฎีกา จัดงบให้ อบจ.พา “อสม.-แม่บ้าน-ผู้สูงอายุ” ไปเที่ยว หลอกเอาชื่อร่วมฎีกา พร้อมจัดนักเลงหัวไม้ขู่ทำร้ายลูกหลาน หากไม่ยอมเซ็นชื่อ ซัด “หัวขวด” ทำเพื่อตัวเอง-ตระกูลชินวัตร รู้ว่าทำผิดขั้นตอน เลยเอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือ
วันนี้ (4 ส.ค.) นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และแม่บ้านผู้สูงอายุ ใน จ.ชลบุรี ว่า ได้มีขบวนการกลุ่มเสื้อแดงแอบอ้างเอารายชื่อไปใส่ในบัญชีรายชื่อการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยใช้วิธีการจัดงบให้ทาง อบจ.กว่า 30 ล้านบาท พากลุ่ม อสม.และแม่บ้านผู้สูงอายุ จ.ชลบุรี กว่า 10 คันรถ ลงชื่อในการร่วมเดินทางไปเที่ยว จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า มีการแอบเอาชื่อของกลุ่ม อสม.และแม่บ้านผู้สูงอายุที่ลงชื่อไปเที่ยวตามที่ อบจ.จัด นำไปลงบัญชีรายชื่อในการถวายฎีกา ซึ่งตนพบว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นกันทั่วประเทศไทย เหมือนสมัยที่พรรคไทยรักไทยหาสมาชิกพรรค ดังนั้น การที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศว่า สามารถหารายชื่อได้กว่า 5 ล้านรายชื่อนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะมีถึงขนาดนั้น
นายประมวล กล่าวว่า ตนคิดว่า ขบวนการถวายฎีกาไม่ถูกต้องอยู่แล้ว จึงคิดว่ารายชื่อที่ถวายฎีกาไม่น่าจะผ่านสำนักราชเลขาฯ ได้ ดังนั้น จึงไม่อยากให้กระทรวงมหาดไทยไปตั้งโต๊ะให้ประชาชนที่ลงชื่อไปแล้วได้ถอนรายชื่อ เพราะเป็นประเด็นที่เปราะบางอาจจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันได้ และอาจส่งผลทำให้สังคมขัดแย้งเข้าไปอีก ทั้งนี้ ที่ จ.ชลบุรี เกิดมีขบวนการข่มขู่ จ่ายเงินให้คนเสื้อแดงที่ร่วมลงรายชื่อถวายฎีกา หัวละ 200-300 บาท เอาพวกนักเลงหัวไม้มาบังคับให้เซ็นต์ชื่อ ถ้าไม่เซ็นก็ข่มขู่ว่าลูกหลานจะไม่ปลอดภัย ทำให้บางคนจำยอมต้องเซ็นชื่อ
“นายวัฒนา อัศวเหม ก็มีความดี ทำไมไม่เห็นล่ารายชื่อถวายฎีกา คนอื่นที่หนีไปต่างประเทศ ทำไมไม่ทำให้บ้าง แสดงว่า เสื้อแดงลำเอียงเอาเฉพาะคนมีเงินจ่ายให้ตัวเองเท่านั้น โดยเฉพาะแกนนำที่สบายกันหมด ผมคิดว่าแกนนำทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อตระกูลชินวัตร และไม่ได้ทำตามขั้นตอนการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งถือว่าขี้ขลาด เพราะทำผิดขั้นตอนแล้วยังมาใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีหน้าอยากกลับมาทำงานให้ประเทศอีก ถ้าคิดว่าเป็นคนไทยก็กลับมาต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม และไม่ต้องกลัวความไม่เป็นธรรมในกระบวนการ เพราะสื่อมวลชนตรวจสอบอย่างละเอียดอยู่แล้ว” นายประมวลกล่าว
