“สาทิตย์” เผยชัดเจนเลือกวันที่ 6 ส.ค.นี้ แถลงผลงาน 6 เดือนรัฐ เชิญ “มาร์ค” นั่งโต๊ะจ้อด้วยตนเอง พร้อมขายฝันบอกเรื่องจะทำในอนาคตด้วย อ้างเหตุวิกฤตการเมืองทำรัฐบาลผลงานไม่คืบ สวนกลับฝ่ายค้าน รัฐบาลไม่มีอะไรดีในสายตาอยู่แล้ว
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการแถลงผลงาน 6 เดือนของรัฐบาล ว่า จะมีการแถลงในวันที่ 6 ส.ค.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แถลงเอง และอาจจะมีรัฐมนตรีอื่นร่วมแถลงด้วย ซึ่งกำหนดเวลาไว้ 2 ช่วง คือ ช่วงสาย กับเย็นๆ ก็จะเอาเวลาที่สะดวกที่สุด ที่ รมต.ว่างตรงกันมากที่สุด แต่คงไม่ได้พูดถึงผลงาน 6 เดือนอย่างเดียว แต่จะพูดถึงสิ่งที่จะทำในวันข้างหน้าด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และจะดูว่าหากเป็นประโยชน์ก็จะถ่ายทอดด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนที่รัฐบาลจะแถลงผลงาน แต่ฝ่ายค้านชิงแถลงผลงานยอดแย่ของรัฐบาลไปก่อนแล้ว รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า อาจจะยอดแย่ในสายตาของฝ่ายค้าน แต่สำหรับประชาชนที่ได้ประโยชน์ก็จะมองตรงกันข้าม
“ฝ่ายค้านชุดนี้ ไม่เคยเห็นรัฐบาลดีอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ แต่เอกสารผลงานที่ทำเสร็จ หากประชาชนอ่านแล้วก็จะเข้าใจว่าสิ่งที่รัฐบาลทำเกิดประโยชน์จริง และมีตัวตนจริงที่สามารถตรวจสอบได้ และคิดว่า ฝ่ายค้านหากพูดอะไรที่เป็นการสวนกับความรู้สึกของประชาชนก็จะเสียหายเอง และการแถลงผลงานรัฐบาล 6 เดือนนี้ ไม่มีรัฐบาลไหนเคยทำ ปกติจะมี 1 ปี ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น แต่เนื่องจากเราเห็นว่าปัญหาบ้านเมืองมีวิกฤตมาก และคนก็คาดหวังกับรัฐบาลเยอะ แรงเสียดทาน วิพากษ์วิจารณ์ก็มีทุกวันเรา จึงต้องชี้แจงข้อเท็จจริง” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า การที่เลื่อนการแถลงผลงานมาเป็นวันที่ 6 ส.ค.จะทำให้ประชาชนมั่นใจได้หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า จริงๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่มาจากทางสมาชิกวุฒิสภาที่มีการประชุมที่เดิมจะเอากฎหมายเงินกู้เข้าพิจารณา แต่ก็เพิ่งเลื่อนไป เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าภายหลังรัฐบาลแถลงผลงานแล้ว คะแนนนิยมของประชาชนต่อรัฐบาลจะดีขึ้น รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เราคงต้องทำให้เห็นว่าปัญหาเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อปากท้องไม่ใช่ปัญหาการเมืองถ้ารัฐบาลไม่แถลงก็จะกลายเป็นว่ารัฐบาลสนใจแต่ปัญหาการเมือง ทะเลาะกับคนโน้น คนนี้แล้วไม่ทำงานหรือเปล่า เราต้องให้ประชาชนรู้ว่างานที่ทำไป ที่มีประโยชน์มีอะไรบ้าง
