รัฐมนตรีหอยสังฆ์ เร่งตีปี๊บผลงาน 6 เดือนรัฐบาล “อภิสิทธิ์” เผยแพร่ออกสื่อหลากรูปแบบ เล็งเกาะกระแสแถลงวันเกิด “มาร์ค” 3.ส.ค.นี้ ฟุ้งหลายนโยบายได้ผลดี สร้างประโยชน์ให้ประชาชน รับโครงการชุมนุมพอเพียงยังต้องปรับปรุง ลั่นไม่ยอมให้การเมืองหาประโยชน์แน่
วันนี้ (28 ก.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมครม.ว่าถึงการจัดงานแถลงผลงาน 6 เดือนรัฐบาลว่า ได้จัดทำสื่อเพื่อเผยแพร่ผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน หลายรูปแบบ เช่น สื่อหนังสือพิมพ์ที่จะเริ่มเผยแพร่ในวันที่ 28 ก.ค.นี้ และจะเผยแพร่ต่อไปอีก 1 เดือน ส่วนบิลบอร์ดที่จะเผยแพร่ทั่วประเทศ เนื้อหาส่วนใหญ่ที่จะบอกประชาชน คือ ความสุขของคนไทย คือเป้าหมายของรัฐบาล และจะเน้นว่านโยบายของรัฐบาลมีคนจำนวนเท่าไรที่ได้รับผลประโยชน์ นอกจากนั้นจะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางวิทยุชุมชนด้วยซึ่งจะมีการเชิญผู้จัด รายการวิทยุชุมชนมาพูดคุย รวมทั้งจะทำหนังสือผลงานรัฐบาลฉบับเต็ม โดยจะพิมพ์ประมาณ 1 หมื่นฉบับ โดยมีเป้าหมาย คือ ส.ส. ส.ว. สื่อมวลชน และฉบับย่อที่จะพิมพ์ 2 แสนเล่ม เพื่อแจกจ่ายให้ทุกหมู่บ้านโดยจะไปที่ห้องสมุดของโรงเรียน และตามชุมชน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนการแถลงผลงานรัฐบาลนั้น เท่าที่หารือกับนายกรัฐมนตรี จะแถลงในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของนายกฯ พอดี คาดว่าจะใช้วิธีแถลงแบบเรียบง่ายและจะถือโอกาสเปิดตัวหนังสือพร้อมทั้งชี้แจงว่า 6 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลทำอะไรบ้าง และจะทำอะไรต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของรัฐบาลเพื่อประเมินการทำงานต่อไป รวมทั้งประเมินว่าอะไรเป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่วันนี้ตนเชื่อว่านโยบายที่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างชัดเจน คือ นโยบายเรียนฟรี 15 ปี เพราะมีคนได้ประโยชน์ถึง 12 ล้านคน ใช้เงิน1.9 หมื่นล้านบาท บางนโยบายก็ยังต้องปรับปรุง เช่น นโยบายชุมชนพอเพียงที่การกำหนดเป้าหมายยังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร ทำให้การอนุมัติเงินชุมชนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการชุมชนพอเพียงที่ยังไม่สำเร็จเพราะมีปัญหาเรื่องการทุจริตด้วยหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวอีกว่า ปัญหานี้ได้หารือกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีมาตลอด และที่เกิดปัญหาคือ ฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายราชการไม่สามารถชี้นำหรือตัดสินใจแทนชุมชนได้ว่าต้องซื้ออะไร ชุมชนต้องเป็นผู้ตัดสินใจเอง และเราต้องจัดการคนที่ไปหาประโยชน์จากโครงการนี้ หากมีเรื่องทุจรติเราต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ตาม ถ้ายิ่งเป็นพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องจัดการให้เด็ดขาด จะไปหากินบนประโยชน์ชาวบ้านไม่ได้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไรที่ชัดเจน
นายสาทิตย์กล่าวต่อว่า นโยบายใดของรัฐบาลเดิมทำไว้ดี รัฐบาลนี้ก็จะสานต่อ เช่น นโยบายด้านโอท็อป ส่วนมาตรการลดรายจ่าย 5 มาตรการ 6 เดือน ที่รัฐบาลนี้ดำเนินการต่อนั้น เพราะเห็นว่าวิกฤติปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญจึงดำเนินการต่อ โดยไม่เลือกว่าในทางการเมืองใครทำก่อนหรือหลัง เมื่อเราเห็นว่าดีก็ขยายมาตรการต่ออย่างเรื่องน้ำประปาฟรี มีประชาชนได้รับประโยชน์ 12 ล้านคนในช่วง 6 เดือน การใช้ไฟฟรีมีคนได้ประโยชน์ 35 ล้านคน
เมื่อถามว่า คาดว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลจะทำให้ประชาชนในภาคอีสานเข้าใจรัฐบาล มากขึ้นหรือไม่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลนั้น ประชาชนในทุกพื้นที่ได้รับประโยชน์ อย่างเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว ประชาชนในพื้นที่อีสานได้รับประโยชน์มากที่สุด และในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ รัฐบาลจะเปิดตัวโครงการไทยเข้มแข็งอย่างเป็นทางการ จะทำให้เห็นภาพชัดเจนว่ารัฐบาลมีแนวทางอย่างไร
“ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้กังวลเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศอะไร เพราะรัฐบาลมีหน้าที่เดินหน้าทำงานต่อไป อย่างในวันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค.นี้ นายกฯ จะไปประกาศสนับสนุนสวัสดิการชุมชน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และรัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลแรกที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้ คือเดินตามที่ชุมชนเสนอมา และในวันที่ 8 ส.ค. นายกฯ จะไปประกาศนโยบายแนวทางการปรับปรุงสายพันธุ์ข้าว ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในโครงการไทยเข้มแข็ง” นายสาทิตย์ กล่าว
