นายกฯ เปิดโอกาสเปิดช่องเผยแพร่สินค้าโอทอป ให้ชาวบ้านนำสินค้าโอทอปนำเสนอผ่านรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” สัปดาห์ละครั้ง รับปากโครงการโอทอปจะเดินหน้าต่อไป
วันนี้ (2 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่าในรายการทุกอาทิตย์เขาจะนำ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” หรือโอทอป มานำเสนอออกรายการให้ผู้ชมผู้ฟังได้มีโอกาสติดตาม โดยสัปดาห์นี้เริ่มจากกรุงเทพฯ หุ่นกระบอกไทย จากกรุงเทพฯ ผ้าไหมจากสุรินทร์ ขนมต่างๆ จากสระบุรี มีผลิตภัณฑ์สปาจากลำพูน แฟ้มจากกลุ่มจักสานจากจังหวัดนครปฐม ทั้งนี้ยังมีสินค้าจากภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน
“ทุกสัปดาห์ผมจะเปิดโอกาสให้มีการนำเอาสินค้าโอทอป หรือหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มาแสดงอยู่ในรายการนี้นะครับ ซึ่งก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งนะครับที่จะช่วยเผยแพร่ และเราจะอาศัยโอกาสของการประชุมระหว่างประเทศด้วยครับ ก็เรียกร้องกันมากว่าในส่วนของอาเซียนที่ภูเก็ตที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการที่จะมาเผยแพร่ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะเป็นช่องทางในการที่จะเดินหน้าในโครงการนี้”
รายงานข่าวแจ้งว่า การนำสินค้าโอทอปมาออกอากาศในวันนี้ สืบเนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้นำสินค้าโอทอปมาเผยแพร่ออกอากาศ ภายหลังที่กลุ่มโอทอปเข้าพบนายกฯ ที่ทำเนียบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะข้อเสนอ “การส่งเสริมกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์โอทอป การส่งเสริมความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ และเครือข่ายผู้ประกอบการโอทอป” และ “การส่งเสริมด้านการตลาด และการเพิ่มช่องทางการตลาด”
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า การนำสินค้าโอทอปมาออกอากาศในรายการดังกล่าว เป็นการโฆษณาสินค้าโอทอปให้กับชุมชนฟรีๆ แต่จะเกี่ยวข้องกับกรณีที่อดีตนายรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศจะนำสินค้าโอทอปไปออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ 100 ช่อง หรือไม่นั้นไม่ทราบ
ทั้งนี้ อดีตนายกฯ ประกาศผ่านกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าจะนำสินค้าโอทอปที่รัฐบาลชุดนี้ทำไม่เป็น ไปออกอากาศในช่องที่ 3 ซึ่งเป็นทีวีที่ทำให้กับประเทศไทย
ด้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) ซึ่งต้องยอมรับว่าระยะหลังก็มีข้อจำกัดมากขึ้น เพราะว่าในหลายพื้นที่ มีเงินทุนไม่พอบ้าง กู้ไปแล้วยังมีปัญหาว่าเป็นการกู้ระยะเวลาสั้นๆ 1 ปีบ้าง โดยตนได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประเมินเรื่องราวต่างๆ และจะมีการปรับและเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าต่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะฉะนั้น ในแง่ของเศรษฐกิจชุมชนก็เป็นเรื่องที่จะมีการเดินหน้าต่อไป และจะไปสอดรับกับอีกหลายงานที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าทำในระดับชุมชน รวมทั้งสวัสดิการชุมชน