“หัวขวด” กระพือปีกฟุ้งแหลกยอดฎีกาทะลุ 3 ล้าน คิดแผนกดดันพระราชอำนาจ ตะแบงยื่นทูลเกล้าฯไม่ผ่านองคมนตรี เตรียมจัดม็อบใหญ่ไล่รัฐบาลอีกรอบ
วันนี้ (31 ก.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า จากการคาดคะเนด้วยสายตายอดตัวเลขถวายฎีกา น่าจะอยู่ที่ 1.5 ล้าน ซึ่งรายชื่อทั้งหมดได้กองไว้ด้านหลังเวทีและด้านข้าง และจะมีการเปิดรับใบรายชื่อไปจนถึงเวลาเที่ยงคืนวันนี้ เชื่อว่า เมื่อปิดยอดตัวเลขใบฎีกาน่าจะไปถึง 3-4 ล้าน จากนั้นแกนนำก็จะยุติรับใบฎีกาพร้อมกับจะให้ นายวีระ ประกาศยอดอย่างไม่เป็นทางการและจะดำเนินการตรวจรายชื่อเพื่อป้องกันรายชื่อซ้ำซ้อน และจะมีการแถลงตัวเลขที่เป็นทางการ และจะนำรายชื่อทั้งหมดยื่นทูลเกล้าฯสำนักพระราชวัง โดยไม่ผ่านองคมนตรี เนื่องจากไม่ไว้ใจองคมนตรีบางคน หลังจากยื่นทูลเกล้าฯแล้วก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการกดดันพระบรมราชวินิจฉัย ไม่ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มคนเสื้อแดง ขั้นตอนการเข้าชื่อถวายฎีกาก็ยังดำเนินหน้าต่อไป จะหยุดยั้งเมื่อถวายรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น และจะมีการจับขัง หรือว่าฆ่าพวกตนก็ตาม ก็จะมีคนทำหน้าที่นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าถวายฎีกาแทน
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชนถอนรายชื่อยื่นถวายฎีกา เชื่อว่า คนที่ถอนรายชื่อมีจำนวนน้อย ทั้งนี้ หากชื่อใดไม่ได้ลงชื่อถวายฎีกามาก่อน แต่ไปแจ้งถอน จะแจ้งความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทันที รวมทั้งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม การยื่นถวายฎีกาโดยไม่ผ่านองคมนตรีนั้น ถือว่าเป็นการเหิมเกริมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกระทำผิดแนวทางปฏิบัติเคยทำมาในอดีต ซึ่งถารถวายฎีการ้องทุกข์ตามปกติจะต้องผ่านการกลั่นกรองขององคมนตรีก่อน นอกจากนี้ หากเป็นการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ จะต้องทำผ่านกรมราชทัณฑ์ โดยนักโทษที่สำนึกผิดแล้วดำเนินการด้วยตัวเองหรือให้ญาติพี่น้องดำเนินการให้ ไม่ใช่การล่ารายชื่อประชาชนจำนวนมากดำเนินการแทน ซึ่งทำให้เกิดของการใช้มวลชนกดดันพระบรมราชวินิจฉัย
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยความจองหอง ว่า ฝากบอก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายชื่อที่นำมาในวันนี้บางหน่วยงานหากเอ่ยชื่อจะรู้ทันทีว่า ที่มีการอ้างเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินนั้นเป็นความเท็จ เพราะหน่วยงานดังกล่าวรับใช้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอย่างใกล้ชิด ส่วนอัยการสูงสุดแม้วันนี้จะยอมเป็นเครื่องมือ แต่คิดหรือว่าจะหยุดประชาชนได้ หรือว่าล่วงรู้อะไรมาจึงต้องรีบออกมาหยุดยั้ง ด้วยการสั่งฟ้อง 9 แกนนำ นปช.ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันรวบรวมรายชื่อก่อนถวายฎีกา สำหรับกรณีที่รัฐบาลเป็นการซื้อเวลา ไม่ได้เร่งรัดคดี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นคดีที่ประหลาด เพราะต้องการกินสองต่อ คือ เป็นการสกัดกั้นกระบวนการถวายฎีกาต่อรองเพื่อถอนคดีของพันธมิตรฯ เพื่อไม่ให้ฝ่าไปถึงคนบงการ เพราะ นายสนธิ รู้ดีว่าถ้าวันนี้หาตัวบงการที่แท้จริงพบ นายสนธิ จะโดนยิงใหม่อีกรอบ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นเรื่องของกลุ่มพันธมิตรฯ กับรัฐบาลที่ร่วมปล้นกันมาแล้วแตกคอกัน เพราะแบ่งสมบัติอย่างไม่เป็นธรรม
นายจตุพร กล่าวอีกว่า หลังจากดำเนินการยื่นใบรายชื่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วภารกิจต่อไป จะมีการหารือในกลุ่มแกนนำ นปช.เพื่อชุมนุมขับไล่รัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลชุดนี้เป็นผลผลผลิตของระบอบอำมาตยาธิปไตย และบริหารประเทศอย่างไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งในวันที่ 1 ส.ค.เวลา 06.00 น.จะมีการประกาศนัดแนะเพื่อรวมตัวชุมนุมขับไล่รัฐบาลอีกครั้ง สำหรับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลย และนักโทษหนีคดีทุจริต ในคืนนี้ จะเป็นการขอบคุณประชาชน เพราะวันนี้ ไม่มีอะไรต้องสูญเสียแล้ว ส่วนที่มีการกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบยิง นายสนธิ นั้น เคยมีการกระเซ้ากัน ในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บอกว่าอย่าไปทำ จะเป็นเวรเป็นกรรม ขอเจอกันชาตินี้ชาติเดียวพอแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในช่วงเย็นกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ ได้ทยอยเดินทางมาจนเต็มพื้นที่ด้านทิศเหนือของสนามหลวง และรอฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอิน ในช่วงเวลา 20.30 น.ทั้งนี้ แกนนำได้สั่งให้มีการขยายพื้นที่สำหรับใบจัดเก็บใบฎีกา เนื่องจากมีจำนวนมากขึ้น โดยมีการ์ด นปช.ในชุดดำ 10 กว่าคน คอยรักษาความปลอดภัยสถานที่เก็บใบฎีกา ซึ่งถูกบรรจุไว้ในกล่องกระดาษกองรวมกัน