อดีต สนช.ชี้ ทางเลือก ผบ.ตร.ลาพักราชการ เปิดทางสอบคดี “สนธิ” แค่การต่อรองเพื่อฮั้วประโยชน์ทางการเมือง ขยายภาพรัฐบาลชุดขัดตาทัพ เตือน “วงษ์สุวรรณ” พลั้งปากเล่นเกมนอกกฎหมาย คำนึงตระกูลมากกว่าชาติบ้านเมือง สับ ภูมิใจไทย ตบหน้า ปชป.ฉาดใหญ่ออกหน้าค้านถวายฎีกาอภัยโทษพ่อแม้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายไพศาล พืชมงคล ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (31 ก.ค.) นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ NEW HOUR ถึงแนวทางการคลี่คลายคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ระบุว่า จะมีทางออกที่ชัดเจน หลังจากที่มีข้อสงสัยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นอุปสรรคในการทำคดี ว่า ล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เสนอทางออกมาให้แล้ว โดยในช่วงนี้ ผบ.ตร.จะลาพักราชการไปต่างประเทศ 10 วัน และลาต่ออีก 30 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมสอบสวนได้ทำงานอย่างเต็มที่ และจะไม่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ซึ่งในช่วงนี้จะมีการมอบหมายให้มีผู้รักษาราชการในตำแหน่ง ผบ.ตร.แทน
โดย นายไพศาล ระบุว่า ต้องเข้าใจสถานการณ์ที่บัดนี้ชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศได้ในลักษณะขัดตาทัพ ความพยายามเดินหน้าตามระบบนิติรัฐ จึงต้องมีแรงกดดันจากอำนาจเก่าและใหม่ผสมปนเปกันไป โดยมีเงื่อนไขว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว รัฐบาลก็มีอันล้มไปโดยไปโดยปริยาย
นายไพศาล เชื่อว่า การหาทางออกโดยให้ ผบ.ตร.ลาพักราชการ แสดงว่า ได้มีการต่อรอง แต่เพื่อให้คดีลอบยิงนายสนธิเดินหน้าต่อไปได้ ถือว่าสมประโยชน์กันทุกฝ่ายทั้งรัฐบาล-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพันธมิตรฯ โดยฝ่ายการเมืองไม่รู้สึกเสียหน้า ฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็สามารถเดินหน้าสืบสวนต่อไป แต่ทั้งที่ต้องจับตาการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.เพราะจะถือเป็นชี้ชะตาเก้าอี้ ผบ.ตร.อีกครั้ง
นายไพศาล ยังกล่าวตำหนิเลขานุการ รมว.กลาโหม ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ตระกูลวงษ์สุวรรณ จะดำเนินการทั้งในและนอกกฎหมายกับคนที่ทำให้เสียหายนั้น ถือว่ายึดปกป้องผลประโยชน์ของบุคคลบางกลุ่มมากกว่าความถูกต้องตามคำนองคลองธรรม เพราะคำพูดดังกล่าวทำให้ผู้คนตกอกตกใจทั้งบ้านเมือง ซึ่งถือเป็นการแสดงพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่ว่า หากผู้ถืออาวุธไม่มีวินัยก็ไม่ต่างกับโจร แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ระบุให้ชัดจะเล่นกันนอกกฎหมายกันอย่างไร ยิ่งสร้างความสับสนให้บ้านเมือง เพราะสามารถตีความได้หลายแง่หลายมุม
นายไพศาล ยังกล่าวถึงการล่ารายชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะขัดต่อหลักกฏหมายและจารีตประเพณี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กระทบต่อสถาบันกษัตริย์ แต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่เคยแสดงภาวะความเป็นพรรคแกนนำทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่กลับกลายเป็นพรรคภูมิใจไทยที่ชิงจังหวะออกมาแสดงตัวคัดค้านการต่อต้านการถวายฎีกา จึงต้องชื่นชม และเป็นตบหน้าพรรค ปชป.ฉาดใหญ่ จึงเชื่อว่า ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจอนาคตพรรค ปชป.ต่อไป