xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ตั้ง กก.หาข้อมูล “น้องกอร์ปศักดิ์” เอี่ยวตู้น้ำพอเพียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี
“กอร์ปศักดิ์” เผยที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค มีมติตั้งคณะกรรมการสอบโครงการชุมชนพอเพียง หลังมีข่าว “น้องกอร์ปศักดิ์” มีเอี่ยว ก่อนส่งข้อมูลให้กรรมการบริหารพรรคจัดการ เจ้าตัวลั่นพร้อมถูกตรวจสอบ ยันบริษัทหยอดน้ำไม่เกี่ยวกับนายทุนบริจาคพรรค

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ให้สัมภาษณ์
 



วันนี้ (30 ก.ค.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้หยิบยกกรณีข้อห่วงใยและข้อท้วงติงกรณีความไม่เหมาะสมของการดำเนินนโยบายชุมชนพอเพียงที่มีการกล่าวหาว่ามีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเกี่ยวข้องแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องนี้ โดยที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วย นายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.สัดส่วน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง นายถวิล ไพรสนฑ์ ส.ส.กทม. โดยคณะกรรมการชุดนี้จะมีการสอบสวนข้อมูลข้อเท็จจริงทุกอย่างที่ไปที่มาของข่าวที่ปรากฏหน้าหนังสือพิมพ์ เพราะส่วนใหญ่เป็นการอ้างอิงจากรายงานข่าว รวมถึงตรวจสอบบุคคลที่ปรากฏชื่อในข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจริงหรือไม่ รวมถึงกรณีที่มีชื่อคือ น้องชายของตนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ยืนยันได้ว่าน้องชายตนไม่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์ โดยคณะกรรมการชุดนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานก็จะสามารถรายงานข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการบริหารฯ ได้รับทราบ

“การตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบหลังจากที่มีข้อท้วงติงว่าไม่เหมาะสม ซึ่งไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน และการออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ามีบุคคลในพรรคเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พรรคจึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้ และพร้อมให้มีการตรวจสอบ เราจะปล่อยให้คนของพรรคไปทำอย่างนี้ไม่ได้” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทที่ได้รับการติดตั้งตู้น้ำระบบหยอดเหรียญ ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เคยซื้อโต๊ะบริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ในการระดมทุน นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวข้องกัน เพราะการซื้อโต๊ะบริจาคเงินเกิดขึ้นในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ ในช่วงที่พรรคเป็นฝ่ายค้าน และการเข้ามาดำเนินการดังกล่าว สำนักงบประมาณได้ประเมินตัวเลขวงเงินตู้หยอดเหรียญ ตู้ละ 1.5-2 แสนบาท ดังนั้น เป็นเรื่องของชุมชนที่จะตัดสินใจในการเลือกซื้อจากบริษัท ตนยืนยันอีกครั้งว่า โครงการชุมชนพอเพียงของรัฐบาลมีจำนวนมาก โดยเฉพาะใน กทม.มีกว่า 1,900 ชุมชน แต่ถูกร้องเรียนเข้ามาเป็นส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มีการท้วงติงว่าไม่เหมาะสม ยังไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น