“ฮิลลารี คลินตัน” เหยียบแผ่นดินภูเก็ตแล้ว พร้อมกำลังรักษาความปลอดภัยจากหน่วยงานสหรัฐฯ เข้มตั้งแต่สนามบินถึงโรงแรม พร้อมเรียกร้องอาเซียนกล้าตัดสินขับพม่าออก หากไม่ปล่อย “ซูจี” รับห่วงสถานการณ์ความมั่นคงภายในภูมิภาค หวั่นนิวเคลียร์เกาหลีต้นเหตุปัญหา
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่จังหวัดภูเก็ต นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต เมื่อเวลา 14.00 น. เพื่อเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ภูเก็ต โดยมีนางขันธ์ทอง อูนากูล รองอธิบดีกรมพิธีการทูต และนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับ
ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย ชุดรักษาความปลอดภัย ทหาร ตำรวจ และชุดรักษาความปลอดภัยของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้บูรณาการเข้มร่วมกันในการดูแลความปลอดภัยทันทีที่นางคลินตันเดินทางถึงท่าอากาศยานภูเก็ต และตลอดเส้นทางที่ขบวนรถของนางคลินตันวิ่งผ่านไปยังโรงแรมที่พัก และโรงแรมที่ประชุม ทั้งนี้ ระหว่างทางที่ขบวนรถรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ วิ่งผ่าน นักเรียนจากสถานศึกษาต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต จำนวนกว่า 2,000 คน ได้มายืนโบกธงชาติของแต่ละประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เพื่อให้การต้อนรับ
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นที่วังพญาไท กทม. นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์พิเศษต่อสื่อมวลชนไทย ดำเนินรายการโดยนายสุทธิชัย หยุ่น ผู้ดำเนินการรายการชื่อดัง นางฮิลลารีกล่าวตอนหนึ่งโดยเรียกร้องกลุ่มอาเซียนพิจารณาขับพม่าออกจากการเป็นสมาชิก หากยังไม่ปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี อีกทั้งแสดงความวิตกเรื่องเกาหลีเหนือถ่ายทอดเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้แก่พม่า
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะกรณีอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหลือ และอิหร่าน รวมทั้งเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นที่อินโดนีเซีย ขณะที่การเดินทางมาไทยในครั้งนี้เพื่อสานสัมพันธ์กับไทย และภูมิภาคเอเชีย ในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เพื่อร่วมมือกันสร้างความรุ่งเรืองให้แก่ภูมิภาค
“รู้สึกกังวลกับหลายเหตุการณ์ด้านความมั่นคงในเอเชีย โดยเฉพาะการทดลองและสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่อาจเป็นตัวอย่างให้หลายประเทศนำไปสู่การแพร่กระจายของปัญหาดังกล่าว”
ขณะที่เหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นที่กลางกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียเร็วๆ นี้ กำลังเป็นเรื่องท้าทายระบอบประชาธิปไตยของหลายประเทศในภูมิภาคนี้
นางคลินตันกล่าวยอมรับว่า วิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังประสบปัญหาอยู่ เห็นได้จากปัญหาการว่างงาน และสถาบันการเงิน แต่เชื่อว่าภายในต้นปีหน้าจะฟื้นตัว