“สุริยะใส” ปัดข่าว ก.ม.ม.ส่งผู้สมัครเลือกซ่อมสุราษฎร์ธานี เหตุสังกัดพรรคยังไม่ครบ 90 วัน แต่หากศาล รธน.ชี้ขาดให้ “นิภา พริ้งศุลกะ” ส.ส.ปชป.สุราษฎร์ฯ อีกคนพ้นสภาพ ก็พร้อมส่งคนลงสมัคร เพื่อวัดกำลัง และหาประสบการณ์ ยืนยันไม่มีนโยบายสนับสนุนผู้สมัคร อบจ.คนใด แฉผู้สมัครสาย นปช.ขึ้นป้ายแอบอ้างได้แรงหนุนจากพันธมิตรฯ
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวในรายการ “สภาท่าพระอาทิตย์” ทางเอเอสทีวี เมื่อเช้าวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน เสนอข่าวว่าพรรคการเมืองใหม่พร้อมที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขต 1 แทน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลาออกไป เพราะปัญหาการถือหุ้น โดยจะส่ง พ.ต.ผาด พรหมจันทร์ ลงสมัคร ว่า ยศที่แท้จริงคือ พ.ต.ท.ผาด พรหมจันทร์ แต่ข่าวออกไปนี้เป็นไปไม่ได้ เพราะตามกฎหมายผู้สมัคร ส.ส.กรณีเลือกตั้งซ่อมต้องสังกัดพรรคการเมือง 90 วัน แต่พรรคการเมืองใหม่เพิ่งตั้งได้ไม่ถึงเดือน หลังจาก กกต.มีมติรับจดแจ้งเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจึงยังส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในช่วงนี้ไม่ได้ เว้นแต่หากมีการยุบสภาที่กฎหมายกำหนดให้สังกัดพรรค 30 วันจึงจะลงสมัครได้
นายสุริยะใส กล่าวว่า อาจเป็นด้วยเหตุนี้เอง ที่ นายสุเทพ ชิงลาออกจาก ส.ส.ไปก่อน เพราะพรรคการเมืองใหม่ไม่มีทางส่งผู้สมัครลงแข่งคนของนายสุเทพได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ นางนิภา พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์อีกคนหนึ่ง ที่มีปัญหาเรื่องการถือหุ้นเช่นกันพ้นสภาพจากการเป็น ส.ส.ทางพรรคการเมืองใหม่ก็คงต้องเตรียมความพร้อมที่จะส่งผู้สมัคร แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าพรรคการเมืองใหม่ต้องการจะโค่นเจ้าของพื้นที่เดิม แต่นี่เป็นโอกาสที่จะวัดกำลังความสามารถของพรรคว่ามีแค่ไหน และเป็นโอกาสที่จะหาประสบการณ์
ส่วนการเลือกตั้งในระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชนในพื้นที่จะตัดสินใจเลือกใคร พรรคการเมืองใหม่ไม่มีตัวแทนในจังหวัด ขณะเดียวกันพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ไม่มีมติที่จะสนับสนุนผู้สมัครคนใด แม้ว่าจะมีผู้สมัครบางคนขึ้นป้ายแอบอ้างว่าพันธมิตรฯ ให้การสนับสนุน แต่ในความเป็นจริงผู้สมัครคนนั้นมีความใกล้ชิดกับ นปช.เสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ฉวยโอกาสหลังจากเคยมาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ 1 ครั้ง และพันธมิตรสุราษฎร์ฯ ตัวจริงรู้ทันจึงไม่ให้มายุ่งเกี่ยวอีก
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ หากผู้สมัครคนใดต้องการได้เสียงสนับสนุนจากพันธมิตรฯ ต้องมีแนวคิดเรื่องการเมืองใหม่ออกมาให้ชัดเจน เช่น รูปแบบการปกครองส่วนท้องถิ่น การใช้จ่ายงบประมาณ การรักษาสิ่งแวดล้อม ผังเมือง เรื่องโลตัส โชวห่วย ถ้ามีความชัดเจนพันธมิตรฯ พร้อมจะเลือก เพราระทุกวันนี้เราก้าวข้ามในเรื่องของตัวบุคคลไปแล้ว โดยเฉพาะในเขตเมืองจะคิดเรื่องฐานทางนโยบายมากกว่า และแม้ว่าพันธมิตรฯ อาจไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ในสุราษฎร์ฯ แต่ถือเป็นพลังที่จะชี้ขาดว่าฝ่ายไหนจะชนะเลือกตั้ง