“โฆษกส่วนตัวมาร์ค” อัดกลับไข่แม้วทุกเม็ด เตือนอย่าลืมกวดน้ำให้ “นช.แม้ว” ในงานแซยิด เย้ยตั้งจิตให้แน่วแน่ เพราะนายใหญ่อยู่ไกลบุญกุศลอาจไม่ถึง ซัดเสื้อแดงทำบัตรประจำตัวเสื้อแดงหวังแบ่งแยกประชาชน แนะควรคืนบัตรประชาชนให้หลวง อัดเล่นการเมืองไร้สาระน่ารำคาญเหมือนยุงบินข้างหู ยันนายกฯ รับงาช้าง ความผิดยังไม่เกิด แจงให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ ตรวจสอบอยู่
วันนี้ (16 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนปช.ที่ยังตั้งหน้าตั้งตาจะจัดงานแซยิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเปลี่ยนสถานที่เป็นวัดข้างอาร์ซีเอ โดยจะจัดพิธีสืบชะตาให้ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่า ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ จะชะตาขาดหรืออย่างไร ถึงต้องมีพิธีนี้ขึ้นมา แต่การที่ใช้ชื่องานว่าเพลทั้งแผ่นดินนั้น ตนอยากแนะนำว่าหลังจากถวายพระเพลแล้วก็ให้พระภิกษุสงฆ์ได้สวดบทกุศลาธรรมา และมาติกาบังสุกุลให้ด้วย เมื่อเสร็จแล้วอย่าลืมทำพิธีกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้นายใหญ่ด้วย และต้องตั้งจิตอธิษฐานให้แน่วแน่ เพราะนายใหญ่อยู่ไกลถึงนครดูไบ บุญกุศลอาจจะข้ามทะเลไปไม่ถึง ส่วนงานกลางคืนที่จะจัดเวทีปราศรัยแล้วให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาเหมือนทุกครั้ง พร้อมทั้งจัดปราศรัยเรื่อง “นโยบายทักษิณกินได้” ตนเห็นว่าอาจจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงมากนัก แต่ถ้าจะปราศรัยในหัวข้อ “นโยบายทักษิณกินประเทศ” น่าจะตรงประเด็นมากกว่า
ส่วนที่แกนนำ นปช.กล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ขัดขวางการจัดงานแซยิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมแนะนำให้จัดงานฉลองวันเกิดให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีด้วย โดยกลุ่มเสื้อแดงจะไม่ขัดขวาง นายเทพไทกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ไม่นิยมจัดงานฉลองวันเกิดให้ตัวเอง และไม่ยอมอนุญาตให้ใครจัดให้ด้วย เพราะไม่อยากจะทำตัวเป็นผู้วิเศษ หรือศาสดาทางการเมืองให้กับสาวกผู้ภักดีทั้งหลาย เนื่องจากนายอภิสิทธิ์เป็นแค่นักการเมืองธรรมดา เป็นคนของประชาชน เจียมเนื้อเจียมตัว ไม่เคยมีพฤติกรรมวัดรอยเท้าก้าวล่วงเบื้องสูงแต่อย่างใด
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช.นั้น จะเห็นว่าเป็นการวางแผนและเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ โดยจัดตั้งองค์กรทางการเมืองที่จริงจังขึ้นมา พร้อมประกาศจัดทำบัตรประจำตัวของคนเสื้อแดง ลงนามโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่านี่เป็นการแบ่งแยกประชาชนคนไทยใช่หรือไม่ หากคนเสื้อแดงต้องการมีบัตรประจำตัวเป็นของตนเอง และเห็นว่าบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยไม่มีความหมายก็ควรคืนบัตรประจำตัวประชานให้แก่หน่วยราชการเสีย ไม่ควรจะใช้สิทธิคนไทยที่อาศัยอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารอีกต่อไป การออกบัตรประจำตัวคนเสื้อแดง เป็นการส่งสัญญาณสื่อสัญลักษณ์อะไรหรือไม่ ถ้าจะให้เหมาะก็ควรออกเป็นบัตรสมาชิกชมรมคนเสื้อแดงจะดีกว่า
นอกจากนี้ นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยหยิบยกเรื่องการรับงาช้างของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มาเป็นประเด็นข้อกฎหมายที่รับสิ่งของมูลค่าเกิน 3 พันบาท และจะยื่นต่อ ป.ป.ช.ว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นความผิดตามที่กล่าวหา เพราะการรับของขวัญแต่ละครั้ง นายกฯ มีความรอบคอบและระมัดระวังตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดทางกฎหมาย เพราะนายกฯ จะให้มีการตรวจสอบทุกขั้นตอน ดูได้จากประวัติที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่การเมือง นายกฯ พยายามที่จะทำตัวเองให้ปลอดจากผลประโยชน์และการกระทำผิดกฎหมายทุกอย่าง แม้จะมีฝ่ายตรงข้ามคอยจับผิดและนำเรื่องไร้สาระ มาจับผิดหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะเอาผิดได้ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมา จนในที่สุดนายกฯ ก็ใช้สิทธิ์ปกป้องตนเองตามกฎหมายโดยการฟ้องกลับผู้กุข่าวเรื่องนี้มาแล้ว
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องงาช้างนั้น นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าการกระทำยังไม่มีผลสำเร็จเพราะทุกครั้งที่รับของขวัญจะต้องส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ตรวจเช็กความถูกต้องก่อน แสดงให้เห็นว่าความผิดยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นหากพรรคเพื่อไทยจะไปยื่นเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. ก็ควรจะไปดูประกาศของ ป.ป.ช.ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ในข้อ 103 ก่อนว่าเป็นอย่างไร ในขณะนี้สมาชิกพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดง พยายามทุกวิถีทางที่จะยัดเหยียดความผิดให้กับนายอภิสิทธิ์ให้ได้ เพียงแค่ประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เป็นสาระ ก็ยังเรียกร้องให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออก
“เป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างความรำคาญทำลายสมาธิในการทำงาน เหมือนกับยุงที่มาบินวนเวียนอยู่ข้างหู จึงขอเรียกร้องให้คนเหล่านี้เลิกเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะก่อกวนสร้างความวุ่นวาย แล้วหันมาทำงานการเมืองในลักษณะสร้างสรรค์จะดีกว่า และคนอย่างนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นคนที่ทำตัวเองให้ขาวสะอาดก่อนที่จะมาเล่นการเมือง ไม่เหมือนกับคนบางคนที่ ก่อนจะมาเล่นการเมือง ได้อาศัยช่องว่างทางกฏหมายเบียดบังผลประโยชน์จนตัวเองร่ำรวย แล้วก็เข้าสู่วงการเมืองเพื่อใช้การเมืองฟอกธุรกิจของตัวเอง” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดแนวรบด้านสื่อเต็มรูปแบบ และเมื่อรัฐบาลจะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าไปดำเนินการเช่นกรณีวิทยุชุมชน ที่จัดตั้งโดยผิดกฎหมาย ก็ใช้วิธีการปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชังรัฐบาล สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคมว่า คนเหล่านี้กรงกลัวความผิดว่ารัฐบาลจะเอาจริงเอาจัง จึงต้องโทรศัพท์ไปปรึกษาลูกพี่ถึงนครดูไบ และได้มีคำแนะนำจากลูกพี่ที่เป็นนายใหญ่ โดยใช้ลูกไม้เดิมๆ ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนมาปิดล้อมสถานีวิทยุ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งเหมือนกับการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันตัวเอง ตั้งแต่ปลุกระดมให้ประชาชนชุมนุมโค่นล้มรัฐบาล ให้ประชาชนล่ารายชื่อเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ถือเป็นเกมการเมืองที่เอาประชาชนมาต่อรองกับพระราชอำนาจ จึงอยากจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดพฤติกรรมที่เอาประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาเป็นเครื่องมือต่อรองผลประโยชน์ของตนเอง ต้องเลิกแอบอ้างประชาชน แล้วหันมาเอาหลักกฎหมาย ความถูกต้องเป็นเครื่องตัดสินจะดีกว่า
