กลุ่ม 40 ส.ว.ขออนุญาตเรียกร้องให้สำนักราชเลขาธิการออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงขั้นตอนและประเพณีปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อใช้เป็นกรณีตัดสินใจกรณีเสื้อแดงล่ารายชื่อ 1 ล้านคนยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ “แม้ว”
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ได้ร่วมกันแถลงเรียกร้องให้สำนักราชเลขาธิการ ออกมาแถลงถึงกฎเกณฑ์ในการยื่นถวายฎีกา หรือการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนายคำนูกล่าวว่า ได้มี ส.ว.ส่วนหนึ่งเห็นตรงกันว่า กรณีที่กลุ่มเสื้อแดงดำเนินการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนในการยื่นถวายฎีกา หรือถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ในฐานะผู้น้อย จึงขอความกรุณาให้สำนักราชเลขาธิการได้ออกมาแถลงถึงขั้นตอน หลักเกณฑ์ ทั้งทางกฎหมายและประเพณีปฏิบัติ ว่ามีหลักเกณฑ์ที่เหมาะควรอย่างไร ซึ่งพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานราชเลขาธิการ พ.ศ.2538 ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ชัดเจนถึงบทบาทสำนักราชเลขาธิการ ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ประสานระหว่างพระมหากษัตริย์กับรัฐบาล ภาครัฐและเอกชน รวมถึงงานราชการแผ่นดินและราชการส่วนพระองค์
นายคำนูณกล่าวต่อว่า ขณะนี้คนที่ออกมาพูดล้วนเป็นฝ่ายการเมือง ที่ตั้งข้อสงสัยว่าจะต้องได้รับโทษก่อนหรือไม่ ดังนั้น ฝ่ายที่จะออกมาให้ข้อมูลได้เป็นกลางที่สุด คือ สำนักราชเลขาธิการ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณว่าจะร่วมลงชื่อหรือไม่ จะได้เป็นข้อยุติเสียที เมื่อถามว่าจะเป็นการสมควรหรือไม่ เพราะประเพณีปฏิบัติไม่เคยมีมาก่อนที่จะเรียกร้องให้สำนักราชเลขาธิการออกมาแถลงในเรื่องใดๆ นายคำนูณกล่าวว่า ด้วยความเคารพเราในฐานะผู้น้อย ทราบดีว่าประเพณีปฏิบัติปกติจะไม่มีการแถลง แต่ประเด็นนี้ถือว่าใหญ่หลวงต่อสังคม ที่อยากให้เกิดความชัดเจน จึงต้องกราบขอความกรุณาให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว เพราะการชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลยังไม่ชัดเจนเพียงพอ เมื่อพิจารณาดูต้นร่างของคำร้องของกลุ่มดังกล่าวแล้ว มีเนื้อหาที่ล่อแหลม หมิ่นเหม่ต่อสถาบันศาล การตั้งเป้าล่าชื่อ 1 ล้านคนไม่ว่าจะเกิดผลในพระบรมราชวินิจฉัยอย่างไร ล้วนแต่จะมีผลกระทบทั้งสิ้น
ด้าน นายอโณทัยกล่าวว่า ขั้นตอนการถวายฎีกาต้องดำเนินการผ่าน 2 หน่วยงาน คือ ยื่นผ่านสำนักงานราชการวัง จากนั้นจึงจะไปถึงสำนักราชเลขาธิการ อย่างไรก็ตาม ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีเวปไซต์เกิดขึ้นมาก ซึ่งมีเนื้อหาหมิ่นเหม่ที่จะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดังนั้นจึงต้องขอความกรุณาสำนักเลขาธิการ ควรเลือกประเด็นที่สำคัญๆ เพื่อชี้แจง เพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง