นายกรัฐมนตรีเปิด 5 ยุทธศาสตร์พัฒนากระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเป็นธรรม เน้นใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เชื่อจะเห็นผลชัดเจนใน 4-5 ปีข้างหน้า
วันนี้ (1 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการสร้างความเข้าใจต่อแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลทั้งต่อวิถีชีวิตของคนในพื้นที่และกระทบโดยภาพรวมต่อเศรษฐกิจและสังคม การแก้ปัญหาต้องอาศัยหลายมิติ แต่หัวใจสำคัญคือ ความยุติธรรมที่จะช่วยให้สงบสุข ดังนั้น รัฐบาลจึงมีมติเห็นชอบที่จะดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ยุทธศาสตร์ ในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553-2557
สำหรับ 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1.การพัฒนาอำนวยความยุติธรรมบนพื้นฐานหลักนิติธรรมให้ความสำคัญกับหลักธรรมาภิบาลในการอำนวยความยุติธรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่ 2.การเสริมสร้างยุติธรรมชุมชนและยุติธรรมทางเลือกให้เข้มแข็ง ให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา 3.การพัฒนาระบบและแนวทางปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคำนึงถึงหลักศาสนา วัฒนธรรม หลักสิทธิมนุษยชน และหลักสมานฉันท์บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของชุมชน 4.การพัฒนาระบบฟื้นฟู และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ โดยวางระบบให้สอดคล้องกับปัญหา ลดความซ้ำซ้อน และปัญหาที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรม และ 5.การส่งเสริมประชาสัมพันธ์เชิงรุกด้านการอำนวยความยุติธรรม ให้ประชาชนได้รู้ข่าวสารที่ถูกต้อง ครอบคลุม ครบถ้วน ตรงความเป็นจริงและทันต่อสถานการณ์
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาพื้นที่ภาคใต้ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนรู้ว่าทุกเหตุการณ์จะได้รับการสะสางอย่างตรงไปตรงมา เน้นการใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค ไม่ว่าใครเป็นผู้กระทำผิดต้องได้รับการปฎิบัติเช่นเดียวกัน เชื่อว่าในแผนยุทธศาสตร์นี้จะเห็นผลชัดขึ้นใน 4-5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะจะมีการปรับปรุงการใช้กฎหมายอิสลาม เช่น กฎหมายครอบครัวและมรดกให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่