“ชวนนท์” โต้ “ไข่แม้ว”- ซัด “นพเหล่” เซ็นแถลงร่วมต้นตอปัญหา “พระวิหาร”

เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ โต้เด็ก “เพื่อแม้ว” ยัน “กษิต” ใส่ใจปัญหากัมพูชา เยือนแล้ว 3 ครั้ง นับแต่รับตำแหน่งเพื่อแก้ปัญหาที่ตนเองไม่ได้ก่อ แจงเหตุไปเยือนจีน จึงไม่ได้ไปพร้อม “สุเทพ” สวน “นพดล” ไม่เคยบอกปราสาทพระวิหารเป็นของไทย เพราะเคารพศาลโลก แต่ปัญหาเกิดเพราะการลงนามแถลงการณ์ร่วม จนเกิดความขัดแย้งพื้นที่ทับซ้อน

วันนี้ (28 มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวก่อนหน้านี้ กล่าวหาว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปอยู่ไหนจึงไม่ไปเจรจาเรื่องปัญหาชายแดนกับกัมพูชา แทนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ว่า นายกษิต ไม่ได้ไปไหน แต่ช่วงดังกล่าว นายกษิต ได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเจรจาเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ ทั้งเรื่องตลาดผลไม้ เรื่องการสร้างทางรถไฟ และอีกหลายเรื่อง

ส่วนที่ นายจิรายุ กล่าวหาว่า นายกษิต ไม่ให้ความสำคัญกับกัมพูชานั้น นายชวนนท์ ยืนยันว่า นายกษิต ให้ความสำคัญตลอด นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งได้เดินทางไปเยือนกัมพูชาแล้ว 3 ครั้ง เพื่อเข้าพบบุคคลสำคัญของกัมพูชา ทั้ง นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรี นายฮอร์นัมฮง รมว.ต่างประเทศ รวมทั้งได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนโรดม สีหมุนี กษัตริย์กัมพูชาอีกด้วย ทั้งนี้ ก็เพื่อหาทางคลี่คลายปัญหาที่รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นผู้ก่อขึ้น

กรณีที่ นายจิรายุ เรียกร้องให้ นายกษิต พิจารณาตัวเองนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า นายกษิต เข้ามารับตำแหน่งเพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ถ้าเห็นว่าตนเองไม่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติแล้ว ก็พร้อมที่จะพิจารณาตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้คนอย่างนายจิรายุมาบอก

สำหรับที่ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงข่าววันนี้ ว่า นายสุเทพ ยอมรับว่า ปราสาทพระวิหาร เป็นของกัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลก เพราะนายสุเทพ จำนนต่อหลักฐานนั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า เราไม่เคยบอกว่า ปราสาทพระวิหาร เป็นของเรา เพราะเราเคารพคำตัดสินของศาลโลก แต่เราบอกว่า ไทยเคยขอสงวนสิทธิ์ที่จะโต้แย้ง เมื่อมีหลักฐานใหม่ นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นมาใหม่นั้น มาจากการที่ นายนพดล ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม (Joint Communique) ระหว่างไทย-กัมพูชา สนับสนุนให้จดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียว ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้งกัมพูชาและไทยต่างก็อ้างสิทธิ์ต่างหาก