"ผบ.ทร." ชี้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ป้องจนท. ตกเป็นแพะหากปราบม็อบ เผยเตรียมแผนพาผู้นำอาเซียนหนี หาก "ม็อบแดงถ่อย" ป่วนการประชุมอีก ยันทร.วางกำลังเข้ม ไม่ประมาท แย้มความสัมพันธ์ไทย-เขมร ยังซี้ปึ้ก ระบุรัฐเดินถูกทางแล้วแก้ปัญหาดับไฟใต้
วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่าด้วยความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) และประเทศคู่เจรจา 27 ประเทศ ในวันที่ 16-23 กรกฎาคมนี้ ว่า ในภาพรวมที่กองทัพเรือได้รับมอบหมายให้ไปดูแลทางทะเลเป็นหลัก ส่วนในเรื่องทางบกเป็นหน้าที่ดูแลรับผิดชอบของกองทัพบกและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งในส่วนตนคิดว่าเรื่องทุกอย่างจะเรียบร้อย สำหรับกรณีการประกาศ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในจ.ภูเก็ต นั้น ถือเป็นส่วนหนึ่งในการหลักประกันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่จะมีหลักคุ้มครอง
“การดูแลความปลอดภัยไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของทหาร แต่เหตุผลที่ต้องมี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เนื่องจากต้องการให้เจ้าหน้าที่มีความมั่นใจว่า จะไม่ตกเป็นจำเลยในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเข้ามาช่วย แต่ทางกองทัพเรือจะพยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกเรื่องอยู่แล้ว ส่วนการเตรียมแผนเคลื่อนย้ายบุคคลสำคัญหากเกิดเหตุการณ์แบบพัทยานั้น ได้มีการวางแผนให้ครอบคลุมทุกด้านแล้ว แม้ว่าแผนดังกล่าวอาจไม่ได้ใช้ก็ตาม โดยอยากฝากว่าหากจะมีการมาชุมนุมก็ขอให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพื่อคำนึงถึงหน้าตาประเทศด้วย” พล.ร.อ. กำธร กล่าว
สำหรับกรณีการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ พล.ร.อ. กำธร กล่าวว่า จากการที่ตนดูการแถลงข่าวแล้ว คิดว่าไม่น่ามีอะไร คิดว่าจะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ แต่ทางกองทัพเรือจะไม่ประมาท โดยฝ่ายความมั่นคงได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อช่วยเข้าไปดูแลตามสถานที่ราชการหรือรักษาความสงบ หากได้รับการร้องขอ ส่วนการวางกำลังนั้น คงเป็นเช่นเดิม กองทัพเรือได้เตรียมสารวัตรทหาร กองร้อยรักษาความสงบ แต่คิดว่าถ้าหากไม่ต้องใช้จะดีที่สุด ซึ่งหวังว่าเหตุการณ์จะไม่บานปลายแบบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และการชุมนุมครั้งนี้คงไม่ฝากอะไรถึงกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะคิดว่าทุกคนรู้ดี
ขณะที่ กรณีพล.ร.ท. เตีย วินห์ ผู้บัญชาการทหารเรือกัมพูชา เดินทางมาแนะนำตัวในโอกาสเข้าตำแหน่งใหม่ และได้มีการหารือร่วมกัน พล.ร.อ. กำธร กล่าวว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างดีเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน ซึ่งตามปกติแล้วก็มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันอยู่แล้ว และมีการเยี่ยมเยียนกันอยู่เสมอ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องตรงกันว่าจะไม่มีการประจันหน้ากัน รวมทั้งต้องการให้ประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะด้านจันทบุรี-ตราด ที่กองทัพเรือทั้งสองฝ่ายดูแลรับผิดชอบอยู่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และประกอบอาชีพค้าขายได้ตามปกติ ไม่มีการปิดจุดผ่านแดน รวมทั้งพื้นที่ทางทะเลก็ไม่มีปัญหาต่อกัน
“ผู้บัญชาการทหารเรือกัมพูชา เห็นด้วยว่าควรให้ประชาชนทั้งสองฝ่าย ดำรงสภาพการอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ทั้งนี้ ไม่ได้มีการหารือเรื่องข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร แต่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่บานปลาย เพราะผู้บัญชาการทหารทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจต่อกันดี โดยคิดว่าสัมพันธ์ทางทหารที่ดีต่อกันจะสามารถช่วยคลี่คลายปัญหาระหว่างรัฐบาลและระหว่างประเทศได้” พล.ร.อ. กำธร กล่าว
นอกจากนี้ พล.ร.อ. กำธร ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี นำจดหมายเปิดผนึกของขบวนการบีอาร์เอ็นที่ระบุว่าต้องการให้มาเลเซียเป็นตัวกลางเจรจาแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ แต่ได้มีการติดตามการนำเสนอของสื่อมวลชน จึงไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ แต่คิดว่าที่ผ่านมาแนวทางการแก้ไขปัญหา รัฐบาลมาถูกทางแล้ว เพียงแต่ต้องใช้ความพยายาม ความอดทน รวมทั้งความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยต้องไม่ไปสร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งเท่าที่ดูสถานการณ์ ตนคิดว่าประชาชนมีความเข้าใจการทำงานของรัฐบาลมากขึ้น ว่า เราลงไปช่วยเขา ไม่คิดทำร้ายใดๆ