ผบ.ทบ.กำชับ จนท.ป้องผู้พิพากษา-ตุลาการ งง! ข่าวรัฐให้เพื่อนบ้านเจรจาไฟใต้ เชื่อดับไฟใต้ขึ้นอยู่กับแนวทางการเมือง โยนรัฐทำเรื่องผ่านสภาหากคิดเจรจา
วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น.ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกระแสข่าวกลุ่มก่อการร้ายหมายหัวลอบยิงคณะผู้พิพากษาและคณะตุลาการในพื้นที่ ว่า ได้มีการพูดคุยกันเพื่อหามาตรการ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเป้าหมายที่มีความอ่อนแอ และป้องกันตัวเองไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแฉว่า ขบวนการบีอาร์เอ็น ทำจดหมายเปิดเผยผนึก ระบุว่า รัฐบาลได้ให้ประเทศมาเลเซียเป็นตัวกลางในการเจรจาปัญหาภาคใต้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียด แต่ในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะการใช้แนวทางการเมืองนำการทหาร จริงๆ ทำไปด้วยกัน จะนำหรือจะเน้น แต่ฝ่ายทหารจะสร้างความเข้าใจกับประชาชนส่วนใหญ่ และพยายามที่จะดูแลไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับคนส่วนใหญ่ ทำให้การใช้ชีวิตเขาดำเนินไปอย่างเป็นปกติ นั่นคือ แนวทางการปฏิบัติการทางทหารส่วนหนึ่งต่อกำลังพลส่วนใหญ่ ส่วนกำลังพลที่เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายนั้นก็ใช้มาตรการทางกฎหมายที่ปฏิบัติอยู่
“มาตรการระบบการเมือง คือ มิติของการพัฒนาในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา การที่จะทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นคือแนวทางการเมือง จะทำให้สถานการณ์หยุดไม่หยุดน้ำหนักนั่นอยู่ที่การเมือง ว่า จะทำให้เขาพึงพอใจได้แค่ไหนอย่างไร ไม่ใช่ใช้การทหารไปปราบปราม ส่วนในความหมายของสื่อมวลชนที่เข้าใจว่า การเมือง คือ ต้องเจรจา อันนี้ต้องยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติตามหน้าที่ตามกรอบของรัฐบาล การที่จะไปเจรจากับใครในลักษณะเขาเป็นผู้ที่กระทำผิดกฎหมายอยู่ เช่นคดี เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐท่านใดก็ทำไม่ได้ ฉะนั้น จะมีการเจรจากันมันน่าจะเป็นแนวเชิงนโยบาย รัฐบาลคงจะต้องเริ่มดูในส่วนนั้นหากจะมี ทั้งนี้หากมุ่งมาถามที่ผม ผมคงเป็นผู้ที่กำหนดนโยบายไม่ได้ และผมก็เรียนว่า ถ้ารัฐบาลคิดจะดำเนินการคงจะต้องถึงรัฐสภาเพื่อผ่านความเห็นชอบในการที่จะใช้มาตรการดังกล่าว” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว