“เทพไท” ชี้แผนตากสิน 2 รุนแรงกว่าแผน 1 หวั่นกลายเป็นสงครามการเมืองรุนแรงกว่าช่วงเมษาฯ หลังแกนนำเสื้อแดงเริ่มเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน วอนยุติอย่าสร้างเงื่อนไข ปลุกปั่นความรุนแรง
วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์แผนตากสิน 2 เพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเอกสารมาก่อนหน้านี้แล้ว เท่าที่เทียบกับแผนตากสิน 1 ปรากฏว่ามีเนื้อหาสอดคล้องกันหลายประเด็น แต่แผนตากสิน 2 จะยกระดับเนื้อหาเป็นแบบเข้มข้น โดยมี 7 ยุทธศาสตร์ และ 6 ยุทธวิธี ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มสงครามกลางเมือง และสงครามประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในขณะนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกำหนดบทบาทพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์ ซึ่งสอดคล้องกับปฏิญญาฟินแลนด์ที่เคยระบุไว้ และมีการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 2550 ผลักดันให้มีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนายแพทย์เหวง โตจิราการ แก้ไขกฎหมายทุกฉบับที่เป็นอุปสรรคต่อการกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อให้กลับเข้าสู่เวทีการเมืองอีกครั้ง ซึ่งเหมือนกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เคยระบุว่าภายใน 6 เดือนจะเป็นนายกฯ เมื่อได้เป็นนายกฯ แล้วจะแก้กฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มตัวเอง
นายเทพไทกล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าการประชุมสภาทุกครั้งจะมีการหยิบยกร่าง คปพร.ของนายแพทย์เหวงขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นวาระแรกทุกครั้ง นอกจากนี้ กลุ่มของกรรมการบริหารพรรค 111 คนก็ออกมาเคลื่อนไหว โดยมีการจัดสัมมนาตามโรงแรมต่างๆ รวมทั้งตั้งสถานีโทรทัศน์ ออกหนังสือเดอะเรดนิวส์ และหนังสือราย 3 วัน ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคอลัมนิสต์ ทั้งออกพ็อกเกตบุ๊กของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง อาทิ หนังสือสงกรานต์เลือด ของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ และชกข้ามรุ่นของนายจตุพร พหรมพันธุ์ และส.ส.พรรคเพื่อไทยก็สร้างสถานการณ์ในสภาวุ่นวายเพื่อที่จะให้มีการยุบสภาเกิดขึ้น รวมทั้งการเล่นเกมเคลื่อนไหวในสภาของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็สร้างสถานการณ์หลายครั้งในสภาให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อที่จะให้มีการยุบสภาเกิดขึ้น
โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนเกรงว่าการชุมนุมในวันที่ 27 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ จะเกิดความรุนแรงมากกว่าเหตุการณ์วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะมีการเพิ่มสงครามกลางเมือง และจัดให้มีการนัดการชุมนุมขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอในทุกจุดทุกภาคทั่วประเทศ แล้วให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำการโฟนอินเข้ามาเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ รวมถึงการปลุกปั่นตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่ในงานแต่งงานนั้น ตนไม่อยากให้เกิดขึ้นจริง เพราะประเทศชาติจะเสียหาย ไม่อยากให้ฝันร้ายของคนไทยกลับมาอีกครั้ง จึงอยากวิงวอนผู้ที่เกี่ยวข้องคิดให้ดี เพราะคนที่ทำเป็นคนกลุ่มน้อย อีกทั้งขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดินหน้าเป็นไปด้วยดี