xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ รูดซิปปากไม่ตอบคดีใต้คืบ ชี้ให้ จนท.พิสูจน์ตัว ก่อนตั้งองค์กรอิสระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” กำชับ “สุเทพ” เร่งหาตัวคนป่วนใต้ แต่รูดซิปปากไม่บอกคดีใต้คืบหรือไม่ ชี้ควรปล่อยเจ้าหน้าที่พิสูจน์ตัวเอง ก่อนตั้งองค์กรอิสระสอบ เผย คุยภาคประชาสังคมแล้ว ลั่นแนวทางพัฒนาต้องใช้งบ ดันร่าง ศบ.ชต.เข้าสภาหลัง 7-8 เดือนเห็นผล รับ “กอ.รมน.-ศอ.บต” เกิดช่องว่าง ยันไม่มีแยกอำนาจ เชื่อ “ทหาร” เข้าใจ

วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการเดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ว่า นายสุเทพ ได้ย้ำการติดตามคดีที่อยู่ในความสนใจและคดีที่มีผลกระทบในพื้นที่ ส่วนการที่ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมรน.) ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ถือเป็นงานที่ทางฝ่ายความมั่นคงต้องทำต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่ดูแลความปลอดภัยของคน ป้องกันไม่ให้คนกระทำความผิด กำลังที่ลงไปต้องดำเนินการตามนี้ แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแนวอะไร แนวทางหลักๆ คือ เรื่องกระบวนการพัฒนา ถือเป็นการดูแลความเรียบร้อยและการรักษากฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วานนี้ ที่มีปฏิบัติการต่างๆ ก็แสดงให้เห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่ติดตามใกล้ชิด ตนได้ทราบผลการลงพื้นที่ของ นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่กลายเป็นบุคคลหายสาบสูญ ได้คุยกันอยู่ ทั้งนี้ เรื่องการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาสอบสวนคดียิงมัสยิดอัลกูรกอน ตนได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวในสภาแล้ว เนื่องจากต่างจากกรณีซึ่งปรากฏเห็นชัดเจนว่า เป็นเรื่องของการปฏิบัติการภาครัฐ เช่น กรือเซะ ตากใบ เป็นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ แต่เหตุการณ์นี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใคร และให้ทางเจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวนทำงาน ถ้าไม่สามารถทำงานได้ หรือทำงานแล้วเห็นได้ชัดว่าจะไม่มีความเชื่อถือ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

“ในชั้นนี้ นายสุเทพ ลงพื้นที่ไป มีความคืบหน้า กำชับชัดเจนเชิงนโยบาย ว่า ต้องทำตรงไปตรงมา ใครก็ตาม จะเรียกว่าฝ่ายไหนก็ตามก็ต้องเอาตัวคนนั้นมา ไม่มีเรื่องอื่น ไม่ต้องรอให้ถึงสุดทาง ผมไม่ขอพูดตรงนี้ ขอให้เป็นรายละเอียดที่เจ้าหน้าที่ทำให้เรียบร้อยก่อน ผมไม่ยืนยันว่าจะไม่ตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาตรวจสอบ แต่จะรอให้เจ้าหน้าที่ต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน ส่วนใช้เวลานานแค่ไหนนั้น ผมจะดูความคืบหน้า ยังมีความคืบหน้าอยู่ อย่าลืมว่า กรรมการรูปแบบอิสระใช้เวลาทำงานนาน” นายกฯระบุ

เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าเอ็นจีโอในพื้นที่จะต่อต้านและหยิบยกขึ้นสู่เวทีนานาชาติ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนทำความเข้าใจอยู่ พูดคุยกับภาคประชาสังคม อธิบายเหตุผลให้เข้าใจเหตุผลของตน ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ก็เข้าใจว่ามีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ตนไม่ได้เมินเฉยต่อความคิดของเขา ติดต่อประสานกันอยู่ เมื่อถามอีกว่า การขยายผลจับกุมคดียิงมัสยิดอัลกูรกอน มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีเจาะไอร้อง ในการยิงครู และยิงพระ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นก็มีในรายงาน หลายเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกันอยู่ แต่ตัวบุคคล รายละเอียดจะเหมือนกันหมดหรือไม่ อีกเรื่อง

เมื่อถามว่า มีการสะท้อนจากในพื้นที่กับสื่อต่างประเทศ เชื่อว่า การทุ่มงบประมาณจะไม่สามารถดับไฟใต้ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า ไม่ได้คิดว่างบประมาณจะดับไฟใต้ได้ แต่การพัฒนาจะดับไฟใต้แต่การพัฒนาได้ ต้องใช้งบประมาณ หากพัฒนาใช้งบประมาณ แต่การใช้งบประมาณ อาจจะไม่พัฒนา ถ้าอย่างนั้นก็ดับไม่ได้ ประเด็นสำคัญ คือ กระบวนการพัฒนาเดินหรือไม่ เราไม่สามารถพัฒนาได้หากไม่มีงบประมาณ ถ้าคิดว่ามีงบประมาณ แล้วดับได้ไม่ใช่ รัฐบาลไม่ได้คิดแบบนั้น รูปแบบกลไก ที่จะใช้ 1 หมื่นกว่าล้าน ที่จะเริ่มต้น เน้นย้ำฟังความต้องการประชาชนและให้ประชาชนมีส่วนคร่วมก่อน ไม่ใช่โครงการที่คิดและใส่โดยไม่คำนึงความต้องการประชาชนไม่ได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องมีบทบาทในการเข้าถึงพื้นที่ ไม่สามารถรอสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้พัฒนาก่อนแล้วเข้าไปในพื้นที่ได้หรือไม่นั้น อาจจะไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้

เมื่อถามว่า กระบวนการพัฒนาจะควบคู่กับร่าง ศบ.ชต.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า ใช่ คิดว่า กฎหมายจะเข้าสมัยประชุมหน้า เมื่อถามว่า มีข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายถาวรลงไปอยู่ในพื้นที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ระดับนโยบายคิดว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นั่นตลอดเวลา ก็กำชับ นายถาวร เป็นคนเข้าไปในพื้นที่ค่อนข้างบ่อย ที่ผ่านมาช่องว่างระหว่างงาน ศอ.บต.กับ กอ.รมน.คือ จุดที่ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ตนได้ชี้ และให้กระชับเข้ามาจากช่องโหว่อยู่ กฎหมายใหม่ ขณะนี้ร่างยังมาไม่ถึง หลักๆ ฝ่ายการเมืองเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด มีข้อเสนอด้านกฎหมายดังกล่าว คือ บางคนมีข้อเสนอให้ร่าง ศบ.ชต.ให้อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย บางคนก็เห็นว่าอยากให้มาอยู่ในความดูแลของสำนักนายกฯ ซึ่งบางคนก็อยากให้ขึ้นนายกฯโดยตรง

“ร่าง ศบ.ชต.ไม่มีเรื่องแยกอำนาจ ผมได้คุยกับทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะท่านมีบทบาทสำคัญในการทำกฎหมายความมั่นคงด้วย รวมถึงผมได้คุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ไม่มีประเด็นเรื่องแยกอำนาจกัน ส่วนข้อดี ข้อเสียเรื่องการแยกความดูแลระหว่างกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกฯ นั้นในความคิดผม ถ้าเราพูดถึงเรื่องการบริหารราชการแบบคลอบคลุมมันจะไปอยู่ที่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งไม่ได้ ศอ.บต.ขณะนี้ปัญหาหนึ่งคือข้อจำกัด คือ ตัว ผอ.ศอ.บต.(นายพระนาย สุวรรณรัตน์) ตัวอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย เป็นระดับรองปลัดกระทรวง ในที่สุดแล้วร่าง ศบ.ชต.จะต้องรวมร่างก่อนเสนอกฤษฎีกา ปกติการพิจารณากฎหมายต้องใช้เวลา 7-8 เดือน สมัยหน้าค่อนข้างดีหน่อยตรงที่อยู่ในสมัยนิติบัญญัติ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น