“โฆษกมาร์ค” ออกโรงโต้ฝ่ายค้านจ้องป่วนสภาไม่เลิก เหตุวอล์กเอาต์พิจารณา พ.ร.บ.กู้เงินสังคมไม่เอาด้วย ถอนหงอกปู่ชัยไม่เด็ดขาด ทำให้ข้อบังคับการประชุมขาดความศักดิ์สิทธิ์ เกรง ส.ส.เจ้าเล่ห์เอาเยี่ยงอย่าง
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสภาฯ ว่า เป็นเพราะ ส.ส.พรรคเพื่อไทยฉวยโอกาสเล่นเกมทางการเมือง ชิงไหวชิงพริบสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง โดยโยนความผิดกรณีที่สภาฯ ผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน 3 วาระรวดว่า เป็นความผิดของรัฐบาลทั้งที่ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องความไม่รับผิดชอบในการทำหน้าที่ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อกระแสสังคมออกมาต่อต้านการทำหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้านจนทำให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ตั้งแต่ประธานวิปฝ่ายค้านและ ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคน เรียงหน้าออกมาแก้ตัวเป็นพัลวันเพื่อแก้ตัวสร้างความชอบธรรมให้แก่ฝ่ายตนเอง จึงเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย ถึงขั้นที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ต้องไล่ออกจากที่ประชุม แต่ก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งของประธานในที่ประชุมจนต้องใช้มาตรการรุนแรงที่สุดถึงขั้นให้ รปภ.ของสภาฯ หิ้วตัวออกไป นับว่าเป็นความรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในสภาฯ ชุดนี้ สร้างความไม่สบายใจให้แก่ ส.ส.ทั้งสภาฯ
นายเทพไทกล่าวต่อว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุมที่ได้แสดงความเด็ดขาด แต่ท้ายที่สุดก็เด็ดขาดไม่จริง ไม่สามารถทำให้ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ศักดิ์สิทธิ์ได้ เพราะเมื่อมีการวินิจฉัยให้ผู้ใดออกจากห้องประชุมแล้ว แต่เมื่อสมาชิกสภาฯ ผู้ใดดื้อดึงและขัดขืนไม่ฟังคำสั่งของประธานสภาฯ และ รปภ.สภาฯ เองก็ไม่สามารถที่จะนำตัวออกจากห้องประชุมได้ ถือว่าเป็นความล้มเหลวของประธานในการทำหน้าที่ควบคุมการประชุมครั้งนี้ มิหนำซ้ำ ส.ส.ผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องขอเวลาในการอภิปรายเพียง 2 นาที แต่ประธานในที่ประชุมกลับไม่อนุญาต ตรงกันข้าม ส.ส.คนดังกล่าวยังดื้อแพ่งอยู่ในที่ประชุมต่อไป อีกทั้งยังได้รับอนุญาตจากประธานให้พูดต่อได้อีก 10 นาที แสดงให้เห็นว่าข้อบังคับการประชุมไม่มีความหมาย เพราะไม่สามารถที่จะควบคุมการประชุมให้อยู่ในภาวะที่เรียบร้อย โดยประธานเองวินิจฉัยกลับไปกลับมา และอาจจะสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีในอนาคตเนื่องจากจะมี ส.ส.บางคนใช้เป็นลัทธิเอาอย่าง ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยของประธานสภาฯได้ โดยไม่มีมาตรการใดๆ มาดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบังคับได้ เหมือนกับการชักปืนออกมาแล้วต้องยิง ไม่ใช่ชักออกมาแล้วเพื่อขู่ให้แค่กลัวเท่านั้น