xs
xsm
sm
md
lg

“ชวน” ลั่นเห็นใจ “ถาวร” แนะ ส.ส.ลงพื้นที่ให้หนัก อย่ามองข้ามมวลชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์
“ชวน” รับไฟใต้โหมหนักแบบฆ่าไม่เลือกกระทั่งพุทธ-มุสลิม แนะรัฐแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพ กรีดความมั่นคงของชาติไม่ใช่เครื่องมือทดลอง ชี้ต้องเข้าใจปัญหาไม่มองข้ามมวลชนในพื้นที่ แนะตรวจค้นเข้มข้นขึ้นเพื่อกันการใช้อาวุธรุนแรง ลั่นเห็นใจ “ถาวร” ทำงานหนัก ปัดแบ่งขั้ว “ชวรัตน์” ลั่นรัฐบาลเดียวกันแบ่งแยกไม่ได้ แนะพูดคุยกันแก้เอกภาพรัฐมนตรี

วันนี้ (17 มิ.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ว่า จากการประชุม ส.ส.ในพื้นที่ มีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า สถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นในช่วงหลังนั้น กระบวนการของคนร้ายไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่การฝึกคนเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว สามารถใช้คนเหล่านี้เป็นมือไม้ที่ยังเป็นอันตรายต่อชีวิตและชาวบ้าน ซึ่งคนเหล่านี้สามารถทำได้โดยไม่เลือกว่าเป็นคนพุทธหรือมุสลิม และดำเนินการชนิดที่เราไม่คาดคิด อย่างฆ่าคนแก่ หรือฆ่าผู้หญิง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นอีกได้วันนี้พรุ่งนี้ ตลอดเวลา

“ไม่ใช่พอเปลี่ยนรัฐบาลแล้วคนร้ายจะหมดไปตามรัฐบาลเก่า ประการแรกรัฐบาลต้องสนใจปัญหานี้ให้มาก และพิจารณาให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรับฟังข้อมูลจาก ส.ส.ในพื้นที่ทุกคนทุกพรรค เพราะเขาพอจะรู้อะไรลึกๆ ข้อมูลของข้าราชการก็มีค่า แต่มองจากส่วนราชการ แต่การแก้ปัญหาในพื้นที่ต้องไม่มองข้ามมวลชนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ให้ความร่วมมือและไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ ความกลัวทำให้ความร่วมมือเกิดขึ้นยาก ความกลัวเกิดจากกลัวคนร้ายมาทำร้าย เช่น เอาลูกหลานไปฝึกซึ่งยังมีการดึงเด็กวัยรุ่น ลูกหลานชาวบ้าน ไปฝึกอยู่ แม้พ่อแม่จะไม่เต็มใจ แต่ความกลัวทำให้ต้องยอม เมื่อฝึกแล้วก็เหมือนเป็นพันธะข้อผูกพันที่ผู้ฝึกบังคับให้ทำ เหตุร้ายคือ น่าเห็นใจกับการเผชิญปัญหาของประชาชนในพื้นที่อย่างยิ่ง” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวว่า ในบรรดา รมต.ทั้งหมด น่าเห็นใจ นายถาวร เป็นคนลงพื้นที่มากสุด แต่ กรณีนายถาวร เป็นตัวแทนกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายปกครองมีความหมายมาก มีตัวแทนของเขาอยู่ในอำเภอ ตำบลหมู่บ้าน ต้องให้ฝ่ายปกครองมีบทบาทมากขึ้น ในเรื่องตัวบุคคลก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะโครงสร้างเดียวกัน แต่หากคนที่มีความสามารถแตกต่างกัน ก็ทำให้ผลที่ได้รับแตกต่างกัน จากการที่ตนลงพื้นที่จะรู้เวลาไปเดินในตลาดก็จะได้ยินชาวบ้านทักกว่า นายชวนกล้ามาหรือ เพราะนายอำเภอยังไม่กล้ามาเลย แสดงให้เห็นว่าเขาอยากเห็นข้าราชการลงพื้นที่

“ยิ่งปัญหาน่าวิตกเท่าไหร่ ส.ส.จะยิ่งต้องแสดงบทบาทความห่วงใยต่อปัญหาเพื่อมาบอกรัฐบาลให้มากขึ้น แต่อย่าปฏิเสธความจริงว่าคนร้ายที่ฝึกฝนไว้ ขณะที่รัฐบาลสมัยก่อนนั้นบอกว่าเป็นโจรกระจอก ตอนนั้นเป็นจำนวนมากยังอยู่ ยังไม่ถูกจับกุม ที่จับได้บางส่วนเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกจับกุม สามารถไปทำความรุนแรงได้อยู่ ส่วนนี้ต้องพยายามสกัดให้ได้ สิ่งที่ผมเคยเสนอมานานคือ การตรวจค้นอย่างเข้มข้น ตรวจอาวุธ เช่นการขอตรวจรถอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการใช้อาวุธร้ายแรงได้ระดับหนึ่ง ถ้าละเลยก็จะยิ่งเป็นปัญหา ผมคิดว่า การทำงานอย่างเชิงรุกอย่างจริงจัง ต่อเนื่องทั้งตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ปกครอง น่าจะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาจะเปลี่ยนเป็นหน้ามือเป็นหลังมือคงทำไม่ได้ แต่ทำอย่างไรให้สามารถควบคุมสถานการณ์ให้มากกว่านี้” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

เมื่อถามว่า การข่าวของรัฐบาลล้มเหลวหรือไม่ที่ไม่สามารถแยกประชาชนออกจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ นายชวน กล่าวด้วยว่า เรื่องข่าวเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องไม่ลืมว่า ประชาชนในพื้นที่เป็นญาติพี่น้องกัน หากคนในครอบครัวก่อเหตุจะให้พ่อแม่ไปแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐคงยาก อาจจะมีการช่วยกันเป็นธรรมดา ต้องอาศัยความร่วมมือมวลชนในพื้นที่ที่ต้องให้ความสำคัญตลอดเวลา ผู้ปฏิบัติงานต้องมองเห็นสอดคล้องร่วมกัน ในอดีตเหตุการณ์เงื่อนไขไม่มี ไม่มีการสร้างเงื่อนไขให้ก่อเหตุร้าย ไม่สร้างความเจ็บแค้น ไม่ใช้วิธีอุ้มฆ่า ใช้ความเด็ดขาดทางกฎหมาย ใครทำผิดต้องดำเนินการโดยไม่ต้องเกรงใจไม่ละเว้น แม้พุทธ หรือมุสลิม

“เรื่องโครงสร้าง ศบ.ชต.ควรจะดูถึงโครงสร้างใหม่ว่าดีกว่าเดิมหรือไม่ ผมขอให้ข้อคิดว่า เรื่องความมั่นคงของชาติไม่ใช่เครื่องมือทดลอง เวลาทดลองพลาด อย่างการยกเลิก พตท. 43 แล้วดำเนินงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ต่างไปจากจังหวัดชายแดนอื่นๆ ไม่ต้องใช้แนวนโยบายพิเศษ พอคิดอย่างนั้น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงของพื้นที่มาทดลอง พอทดลองผิดแล้วมาบอกว่าไม่เอา มันไม่ได้ เสียแล้วมันเอาคืนไม่ได้ อะไรที่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงต้องศึกษาให้รอบคอบ และเปลี่ยนถ้าเห็นว่าวิธีเดิมไม่ดี ก็ต้องเปลี่ยน ทุกคนต้องอ่านประวัติศาสตร์ เรียนรู้พื้นที่ เข้าใจปัญหาพื้นที่ ถ้าเราไม่เรียนรู้อะไรเลยสภาพปัญหามันจะต่าง” นายชวน ระบุ

เมื่อถามว่า รัฐบาลออกตัวช้าในการแก้ปัญหานี้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า รัฐบาลรู้ตั้งแต่ต้น เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆของนโยบายรัฐบาลแต่ต้องมาทบทวนเรื่องแนวทางภารกิจที่มอบให้แต่ละกระทรวง ส่วนแนวทางการเมืองนำการทหาร มันต้องอธิบายให้เข้าใจว่าวิธีการคืออะไร แต่ที่เห็นร่วมกันคือบทบาทของฝ่ายปกครองต้องเข้มข้นมากกว่านี้

เมื่อถามว่า การที่ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยไม่สนใจพื้นที่เลยทั้งที่เป็นเจ้ากระทรวง นายชวน กล่าวว่า มาเป็นรัฐบาลเดียวกันคนที่มาเป็น รมต.แบ่งอะไรไม่ได้ เพราะถือเป็นภารกิจของบ้านเมือง จะมาแบ่งพรรคไหนดูอะไรไม่ได้ ถ้าสำเร็จก็สำเร็จร่วมกัน ล้มเหลวก็ต้องล้มเหลวทั้งรัฐบาล ส่วนที่ นายชวรัตน์ ไม่อยากยุ่งแล้วมอบให้เป็นอำนาจของนาย ถาวร นั้น คงถือว่าไม่อยากจะก้าวก่ายเจตนารมณ์อาจจะเป็นอย่างนั้น ตนไม่ได้คุยกับนายชวรัตน์เป็นการส่วนตัว แต่คุยกับนายถาวร ให้ไปบอกรัฐบาลจะเรียนใครก็ได้

เมื่อถามว่า การที่ นายชวรัตน์ ไม่ยุ่งเรื่องภาคใต้เป็นเพราะไม่ใช่พื้นที่ฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คงเห็นว่า นายถาวร ดูแลอยู่ แต่เชื่อว่ารู้ว่าต้องเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐบาล ตนเองก็ไม่ไปก้าวก่ายอะไรเกินเหตุ ต้องช่วยรัฐบาลอย่าไปน้อยใจทำอะไรที่กระทบต่อการทำงานของรัฐบาล ถ้ามีอะไรไม่เหมาะสมก็บอกรัฐบาลโดยตรง

เมื่อถามว่า มองว่า เป็นความไม่เป็นเอกภาพของรัฐมนตรีหรือไม่ทำให้การแก้ปัญหาล่าช้า นาย ชวน พยักหน้ายอมรับว่า ก็ต้องพูดกัน เรียกมาคุยกัน ตนเห็นใจ เพราะ ส.ส.เขาทุกข์ร้อนในพื้นที่
กำลังโหลดความคิดเห็น