นายกฯอภิสิทธิ์ พร้อมคณะเดินทางถึงกัมพูชา ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนหารือทวิภาคี ยันร่วมมือหลายโครงการ ทั้งถนนเชื่อไทย-กัมพูชา หมายเลข 68 ขณะที่นายกฯกัมพูชา ขอบคุณไทย ส่งมอบวัตถุโบราณคืน ลั่นร่วมยึดแนวทางเจรจาอย่างสันติวิธี แก้ปัญหาชายแดนสองประเทศ
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 08.50 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมี นายเขียว กัญฤทธิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข่าวสารกัมพูชา ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ และ นางยู ออย เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย รอให้การต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ วิมานเอกราช ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรชน โดยมี พลตรี พรุม ดิน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารพิเศษ รอให้การต้อนรับ และนำนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินผ่านแถวทหารกองเกียรติยศและวงดุริยางค์ทหาร เพื่อไปวางพวงมาลา ณ แท่นพิธี
จากนั้นในเวลา 10.00 น.นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ กัมพูชา ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ โดยมีสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ นายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา รอให้การต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เชิญนายกรัฐมนตรีไปยังแท่นรับความเคารพ และเดินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีได้หารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ณ ห้องอังกอร์วัด กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวแสดงความยินดีและขอต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะทางการไทย ที่มาเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเยือนครั้งนี้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในทุกด้าน ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ซึ่งถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะได้มีการพบปะหารือกันแล้วในหลายโอกาส แต่การพบกันครั้งนี้ก็ถือว่ามีความสำคัญมากต่อไทย และมั่นใจว่าจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความร่วมมือต่างๆ ในหลายโครงการ ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีความคืบหน้า เช่น กรณีถนนเชื่อมไทย-กัมพูชา หมายเลข 68 (ช่องจอม-สำโรง-กรอลันด์-เสียมราฐ) ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญ และจะเร่งรัดการเจรจา เพื่อจะได้ลงนามและก่อสร้างโดยเร็ว สำหรับเรื่องคอสะพาน 4 แห่งบนถนนหมายเลข 48 (เกาะกง-สแรอัมเบิล) นั้น รัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนในการซ่อมแซม นอกจากนี้ เรื่องโครงการการพัฒนาเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำสตึงนัม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องข้อมูลทางเทคนิคซึ่งไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตาม จะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดในการหาข้อยุติทางเทคนิค เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปโดยสะดวกยิ่งขึ้น และต้องการเสนอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่โครงการ และให้มีการผลักดันอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แสดงความขอบคุณแก่นายกรัฐมนตรีที่ได้นำวัตถุโบราณจำนวน 7 ชิ้น มามอบคืนสู่ประเทศกัมพูชา และแสดงความพอใจเกี่ยวกับความร่วมมือของทั้งสองประเทศที่จะช่วยขยายต่อความร่วมมือด้านพาณิชย์ การค้า การลงทุน และท่องเที่ยว ต่อไป
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในเรื่องปัญหาชายแดน โดยเห็นพ้องกันว่าต้องให้มีการดำเนินตามแนวทางสันติวิธี เพื่อลดการกระทบกันด้านทหารระหว่างทั้งสองฝ่าย และจะใช้กลไกความร่วมมือที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความขัดแย้งระหว่างกัน
