นายกฯ อภิสิทธิ์ บินเยือนเขมรแล้ว เล็งถกโครงสร้างพื้นที่ พร้อมความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ย้ำยึดสันติวิธีแก้ปัญหาระหว่างสองประเทศ ระบุเตรียมส่งคืนวัตถุโบราณกลับบ้าน ชี้หวังแสดงความจริงใจ
วันนี้ (12 มิ.ย.) เมื่อเวลา 06.30 น.ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางว่าจะมีการหารือถึงความร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาหลายเรื่อง แต่ในเน้นในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานและความร่วมมือด้านวัฒนธรรม
เมื่อถามว่า ปัญหาการกระทบกระทั่งบริเวณแนวชายแดนยังมีอยู่เป็นระยะๆ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนได้เน้นย้ำในเรื่องของการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ยึดถือตามข้อตกลงและกลไกที่มีอยู่ รวมทั้งได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามนั้น
เมื่อถามว่า การเดินทางเยือนกัมพูชาครั้งนี้จะนำวัตถุโบราณไปส่งมอบคืนด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราถือว่าเป็นการแสดงออกว่าเรามีความจริงใจในการดำเนินการตามข้อตกลงทุกๆ ด้าน เรื่องวัตถุโบราณ เมื่อพิสูจน์ทราบว่ามีการลักลอบนำวัตถุโบราณเข้ามา เราก็ส่งคืน
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจการเยือนประเทศกัมพูชาด้วยว่า คณะของนายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในเวลา 08.40 น. โดยนายกรัฐมนตรีเริ่มภารกิจแรก คือ วางพวงมาลา ณ วิมานเอกราช ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้น เพื่อรำลึกถึงการได้รับอิสรภาพจากฝรั่งเศส เมื่อปี 1953 หรือ พ.ศ.2476 ของไทย
จากนั้น รัฐบาลกัมพูชาจัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีสมเด็จอัคคมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาให้การต้อนรับ โดยหลังจากตรวจแถวทหารกองเกียรติยศแล้ว นายกรัฐมนตรีได้หารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบวัตถุโบราณให้ฝ่ายกัมพูชา จำนวน 7 ชิ้น ประกอบด้วย เศียรเทวดา 1 ชิ้น และเศียรอสูรหรือยักษ์ 6 ชิ้น ก่อนที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติกับนายกรัฐมนตรีและคณะ
สำหรับการหารือข้อราชการ ระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งคาดว่า เป็นการหารือถึงปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล การแก้ปัญหาตามแนวชายแดนร่วมกัน การเชื่อมโยงถนน การพัฒนาแหล่งน้ำ ไฟฟ้า และโครงการอื่นๆ อีกหลายโครงการ
