ผบ.ทบ.ระบุจำเป็นต้องใช้สงครามข่าวตอบโต้ในเชิงจิตวิทยา วอนสื่อช่วยแจงเหตุคนร้ายใช้ใบปลิวโจมตีภาคราชการ ยืนยันอาวุธที่ใช้ถล่มมัสยิดเคยใช้ก่อเหตุทำร้ายประชาชนรายวัน เชื่อเหตุจูงใจฆ่าเกินสันดานมนุษย์เพราะชุมชนนี้ยืนอยู่ข้างรัฐบาล
วันนี้ (12 มิ.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามผู้ก่อเหตุยิงมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอร์ปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ว่า ขณะนี้ดูจากหลักฐานพบว่าหนึ่งในอาวุธที่ผู้ก่อเหตุนำมาใช้ เป็นอาวุธที่เคยก่อเหตุทำร้ายประชาชนมาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักฐานที่ได้จะทำให้ประชาชนเข้าใจได้หรือไม่ว่าผู้ก่อเหตุไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนพูดตามข้อเท็จจริงและสภาพแวดล้อม โดยหมู่บ้านดังกล่าวให้ความร่วมมือกับราชการอย่างใกล้ชิดดีมาก และเจ้าหน้าที่ถือว่าหมู่บ้านนี้เป็นฝ่ายเราค่อนข้างสูง อีกทั้งสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านส่วนใหญ่เป็นไทยมุสลิม และหมู่บ้านไทยพุทธที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่าง 3 กิโลเมตร ดังนั้น การที่ผู้ก่อการร้ายพยายามใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายผู้ก่อการร้ายใช้ใบปลิวโจมตีทางราชการ สื่อมวลชนต้องช่วยทำให้ข้อเท็จจริงเกิดขึ้น แต่การจะระบุว่าเป็นการกระทำของใครต้องใช้หลักฐานที่มีดำเนินคดี คงไม่ใช่เป็นการคาดการณ์ หรือคาดเดาในการดำเนินคดี
ต่อข้อถามว่าการใช้สงครามข่าวสารของฝ่ายตรงข้ามจะมีผลต่อจิตวิทยากับประชาชนในพื้นที่ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราประเมินว่าประชาชนมีความเข้าใจ เพราะการที่มีกำลังพลอยู่กับประชาชน ทุกหมู่บ้านและไปทำในสิ่งไม่ชอบมาพากลหรือไปใช้มาตรการที่ไม่ถูกต้องหรือไป กดขี่ข่มเหงประชาชนเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถจะอยู่ได้ เมื่อถามว่าขณะนี้มั่นใจได้แค่ไหนว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงมากกว่านี้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า “ก็ต้องคุมได้”
