พบแล้ว “หางแดง” แหกตาหายตัว หลังป่วนเผาเมืองที่แท้หนีตามชู้รัก

สำนักงานปลัดฯ ควักเงินรัฐเยียวยา เหยื่อหางแดงป่วนเผาเมือง 87 ราย กว่า 4.74 ล้าน พร้อมควานหาคนหายพบแล้ว 7 ราย หนึ่งในนั้นพบรักกลางม็อบเสื้อแดงหอบเสื้อผ้าหนีตามกัน ขณะที่อีกรายหนีออกนอกประเทศ หาตัวไม่เจอ ขณะที่ เสื้อแดงอีกรายโวยวาย พม.จ่ายเงินไม่ครบ พม.อ้างเงินหมด

วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ศูนย์แถลงข่าวตึกนารีสโมสร นายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ฐานะประธานคณะกรรมการรวบรวมและประมวลเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2552 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งแต่งตั้งตามคำสั่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2552 แถลงความคืบหน้าในการดำเนินงาน ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีกรรมการเกือบ 40 คนจากทุกหน่วยงาน โดยผลของการประชุมที่มีการทุกสัปดาห์ได้ข้อมูลเกือบ 400 หน้า ซึ่งดำเนินการใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่า ภายใน 2 สัปดาห์จะเสร็จสมบูรณ์ โดยภายหลังจากการนำรายงานต่อที่ประชุม ครม.ก็จะมีแจกให้กับสื่อมวลชนด้วย

ส่วนกรณีที่ สปน.ฟ้องร้องค่าเสียหายกับกลุ่มพันธมิตรฯที่เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล จนทำให้ทรัพย์สินภายใน สปน.สูญและเสียหาย นางนัที กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน ซึ่งในส่วนที่เสื้อเหลืองยึดทำเนียบ สปน.เสียหาย 18 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ซึ่งกำลังติดตามหาอยู่รับผิดชอบ

“ในส่วนของความรับผิดชอบ ของหลวงที่มันเสียหาย ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ต้องมีผู้รับผิดชอบ ผมเองในฐานะที่ต้องรับผิดชอบผมเองก็ต้องติดตามอยู่ตลอด เพราะไม่เช่นนั้นหัวหน้าหน่วยงานก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ถ้าไม่มีเงินไปจ่ายเขา ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งเฉย ติดตามอยู่ แต่ก็ต้องเห็นใจพนักงานสอบสวนด้วยเพราะว่ามีหลายคดี” นายนัที กล่าว

ด้าน นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวว่า การช่วยเหลือเยียวยา ครม.ให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับเหตุการณ์ 7 ต.ค.2551 ถ้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยช่วยเหลือ 2 หมื่นบาท มีจำนวน 39 ราย บาดเจ็บและรักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 หมื่นบาท 36 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 แสนบาท 10 ราย ส่วนเสียชีวิต 4 แสนบาทมีจำนวน 2 ราย โดยมีการสำรวจความเสียหายตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.-ปัจจุบัน มีผู้ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียน 138 ราย ได้พิจารณาช่วยเหลือ และได้ช่วยเหลือแล้ว 87 ราย พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือตามเกณฑ์แล้ว 5 ครั้ง ใช้งบประมาณเยียวยาจำนวน 4.74 ล้านบาท

“ในรายที่เสียชีวิต 2 ราย มีอยู่รายหนึ่งมีทายาท 2 คน ก็ต้องช่วยเหลือดูแลต่อเนื่อง คือ ช่วยเรื่องของการศึกษาให้กับทายาทตามเกณฑ์ คือ คนหนึ่งได้เดือนละ 1 พัน และอีกคนได้ 1.5 พันบาท ซึ่งจะช่วยเหลือต่อเนื่องจนกว่าจะจบการศึกษา” นายวัลลภ กล่าว

นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีบุคคลสูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการได้รับเรื่องร้องเรียนจากองค์กรต่างๆ อาทิ มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย สมาพันธ์ประชาธิปไตย และตัวแทนญาติผู้สูญหายจากกรณีดังกล่าว ซึ่งได้ยื่นหนังสือต่อกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพให้ดำเนินการเร่งรัดค้นหาผู้สูญหายจำนวน 10 ราย ซึ่งทางคณะอนุกรรมการได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินสืบสวนเพื่อหาผู้ที่มีคนมาร้องเรียน ปัจจุบันพบว่าบุคคลตามรายชื่อ 10 รายที่ร้องเรียนมาพบตัวแล้ว 7 รายโดยหนึ่งในนั้นคือ ส.ต.มานะ จิตรนอก ได้ขึ้นทะเบียนทหารเกณฑ์เมื่อปี 2536 และปลดประจำการปี 2538 ปัจจุบันพ้นสภาพการเป็นทหารแล้ว ญาติแจ้งว่าได้พบรักกับผู้หญิงที่ไปชุมนุมและไปอยู่กับภรรยาคนใหม่แล้ว

นางสุวณา กล่าวว่า ส่วนรายที่ยังไม่พบ 3 รายนั้น มีหนึ่งรายพบหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.จนถึงวันที่ 18 พ.ค.ยังไม่พบข้อมูลว่าเดินทางเข้าประเทศ อีกรายคือ นางสมใจ จันเป็ง ญาติแจ้งว่าออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.2552 ก็อยู่ระหว่างการติดตามตัว และสุดท้ายคือ นายศรชัย แต่ไม่ทราบนามสกุล เจ้าหน้าที่ติดตามไม่พบเนื่องจากว่าผู้แจ้งไม่อยู่บ้านติดต่อไม่ได้ข้อมูล จึงยังไม่เพียงพอ ซึ่งจะต้องดำเนินการสืบสวนหาตัวต่อไป

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งรัดดำเนินการและรายงานผลการตรวจสอบให้ทราบโดยด่วน” นางสุวณา กล่าว

อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวอีกว่า ในการช่วยเหลือประชาชนในช่วงนั้นกรมคุ้มครองฯมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ซึ่งขณะนี้กรณีเสียชีวิตมีผู้มายื่นคำขอแล้ว 3 ราย ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาจ่ายให้แล้ว 2 ราย คือ กรณีเหตุการณ์ที่นางเลิ้งที่รับเงินช่วยเหลือรายละ 1 แสนบาท ส่วนอีกรายคือ กรณีที่พบศพผู้ชายลอยน้ำมาที่บริเวณท่าพระอาทิตย์ ซึ่งยื่นมาญาติผู้เสียหายอ้างว่า สาเหตุการตายเกิดจากสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่หาตัวพบแล้ว 7 ราย ได้แก่ 1.นายกฤษฎา ยังดี 2.นายดำรงศักดิ์ หลาวทอง 3.นายณรงค์พล สิงห์น้อย 4.นายนนท์ ทิพนันท์ 5.นายชล อิ่มทอง 6.นายบุญธรรม สุขวงศ์ และ 7.ส.ต.มานะ จิตรนอก ส่วนที่ยังไม่พบมี 2 ราย คือ นายสมใจ จันเป็ง และ นายศรชัย (ไม่ทราบนามสกุล) ส่วนอีกรายทราบว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่เดินทางออกนอกประเทศทางด่านอรัญประเทศ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.2552 คือ นายบุญธรรม สุขวงศ์

ด้าน นายไสว ทองอ้ม ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่แยกดินแดงเมื่อวันที่ 13 เม.ย.กล่าวว่า ตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องได้รับเงินเยียวยา 1 แสนบาท ซึ่งคนที่อยู่ในกลุ่มนี้ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลนานกว่า 20 วัน แต่ตนนอนพักถึง 1 เดือน แต่ได้รับเงินเยียวยาเพียง 6 หมื่นบาทเท่านั้น เมื่อสอบถามที่ พม.เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วกลับได้รับคำตอบว่าเงินงบประมาณหมดแล้ว และไม่ทราบว่าจะได้ส่วนที่เหลืออีกเมื่อใด อย่างไรก็ตาม ตนก็จะทำเรื่องขอมายัง สปน.อีกครั้ง