เลขาฯ กกต.ชี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจที่ประชุม กกต.จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรียลิตี้โชว์สกลนครหรือไม่ ไม่หวั่นตามเกมนักการเมืองไม่ทัน ยึดหลักพิจารณาตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยให้ กกต.ตรวจสอบพรรคภูมิใจไทย ที่อาจกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จากกรณีที่ไปจัดสัมมนานอกพื้นที่เลือกตั้งที่ จ.สกลนคร ว่า ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต.ว่าจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะสามารถให้ใบแดงได้ก่อนวันเลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าหากตั้งอนุกรรมการขึ้นมาก็ต้องไปดูว่ามีการใช้อำนาจรัฐเพื่อให้คุณให้โทษต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดหรือไม่ และการไปจัดสัมมนาของพรรคภูมิใจไทยเป็นการหาเสียงหรือไม่ อีกทั้งยังมีกรณีที่อดีตกรรมการบริหารพรรค ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมาเกี่ยวข้อง ซึ่งต้องดูว่าฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ แต่กรณีนี้ทางด้านสืบสวนสอบสวนจะทำความเห็นขึ้นมาที่ กกต.ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่า แม้พรรคภูมิใจไทยจัดสัมมนานอกเขตเลือกตั้ง แต่หากมีการนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งมาร่วมงานสัมมนาฯ จะถือว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า ต้องดูว่าเรื่องมีการหาเสียงหรือไม่ เพราะขณะนี้ กกต.ยังไปสรุปอะไรไม่ได้ ดังนั้น กกต.จะต้องดูให้รอบคอบก่อน ทั้งนี้ หากทุจริตเลือกตั้งอย่างเดียว ด้านสืบสวนสอบสวนก็จะดำเนินการต่อไป แต่กรณีนี้มีมาตรา 97 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 ที่มาเกี่ยวข้อง โดยอดีตกรรมการบริหารพรรคจะฝ่าฝืนกฎหมายนี้หรือไม่ ส่วนกรณีที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย มาช่วยหาเสียงนั้นไม่ถือว่าผิด เพราะกรรมการบริหารพรรคต้องช่วยหาเสียง แต่การหาเสียงโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่เป็นรัฐมนตรี มันอาจขัดกฎหมายได้ เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ให้คุณให้โทษ ซึ่งต้องดูข้อเท็จจริงก่อน
เมื่อถามว่า หากผู้สมัครกระทำผิดและถูกใบแดง กรรมการบริหารพรรคที่อยู่ในขณะกระทำผิดจะต้องมีส่วนรับผิดชอบที่อาจนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า เป็นคนละส่วนเพราะใบเหลืองและใบแดงมาจากการทุจริตเลือกตั้ง และการหาเสียงของกรรมการบริหารพรรคจะมีการแจกเงินด้วยหรือไม่ หากแจกเงิน กกต.จะต้องว่าดูแจกเงินด้วยอะไร ซึ่งเรื่องนี้จะต้องสืบหาข้อเท็จจริงก่อน
เมื่อถามว่า หากผู้สมัครไม่ได้กระทำผิด แต่กรรมการบริหารพรรคมีส่วนกระทำผิดก็อาจนำไปสู่การยุบพรรคได้หรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องดูที่ผู้สมัครก็ได้ เพราะกฎหมายบอกว่าผู้ใดและทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต ซึ่งต้องดูว่ากรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็นหรือไม่
เมื่อถามว่า กรณีพรรคภูมิใจไทยอาจทำให้ กกต.ตามเกมนักการเมืองไม่ทัน นายสุทธิพลกล่าวว่า คงไม่ใช่ กกต.ดำเนินการทุกเรื่อง และการพิจารณาก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าได้พยานหลักฐานหรือไม่ หาก กกต.ตามทันแต่ไม่มีพยานหลักฐานก็จะเล่นงานไม่ได้ เพราะ กกต.จะตัดสินตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ อีกทั้งเทคนิคของนักการเมืองไม่พิสดาร
