“สัก กอแสงเรือง” โวยเลือกสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ มีบล็อกโหวตวางตัวล่วงหน้าไม่ต่างจากสมัย ส.ว.43 คนดี-เด่น-ดังร่วงผลอย พบพิรุธขนคนเลือกมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน ก่อนเกณฑ์ให้เลือกน้องเจ้าของบ้าน ญาติ ส.ส.สัดส่วน “เพื่อแม้ว”
รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) ชุดที่ 2 กลุ่มหนึ่งได้ยื่นจดหมายลับด่วนที่สุดต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ใช้อำนาจระงับการประกาศรับรองและการประกาศรายชื่อสมาชิก สป.ชุดที่ 3 ในราชกิจจานุเบกษา
จดหมายดังกล่าวได้ระบุถึงความไม่ชอบมาพากลในการสรรหาหลายประเด็น เช่น ในกลุ่มการผลิตด้านการบริการ ปรากฏว่า ผู้มีสิทธิคัดเลือกกันเองในกลุ่มนี้ มี 5 คนที่มีที่อยู่เดียวกัน ประกอบด้วย 1.นายวิรัตน์ จงวัฒนเกียรติ 2.นายสุธี ชัยธีระสุเวท 3.นายวิทยา จุติพิมาน 4.นายสมชาย เย็นสดใส และ 5.นายสุชาติ เจียรจิตเลิศ มีที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์เดียวกัน คือ เลขที่ 37 ซ.69 ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กทม.10700 เบอร์โทรศัพท์ 08-1610-2727
ทั้งนี้ เอกสารฉบับดังกล่าวระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าที่อยู่เป็นบ้านของพี่ชายนางใยอนงค์ ทิมสุวรรณ (ญาติของนายธนเทพ ทิมสุวรรณ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิก สป.ชุดที่ 3 ในกลุ่มนี้ ส่วนเบอร์โทรศัพท์เป็นของพี่สะใภ้นางใยอนงค์ ทิมสุวรรณ หลักฐานนี้จึงเป็นการบ่งบอกว่ามีการจัดตั้งกลุ่มบุคคลเพื่อมาลงคะแนน
นายสัก กอแสงเรือง อดีตนายกสภาทนายความ หนึ่งในผู้สมัครสมาชิก สป.ชุด 3 แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก เปิดเผยว่า มูลนิธิองค์กรกลางได้ส่งตนเข้ารับสมัคร แต่สาเหตุที่ไม่ได้รับการคัดเลือกก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร และไม่ทราบว่าคณะกรรมการสรรหาใช้หลักเกณฑ์อะไรตัดสิน ซึ่งเรื่องนี้ ตนยังไม่ได้ติดตามข้อมูลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งจะรีบติดตามข้อมูลโดยด่วน
“เบื้องต้นผมจากที่ดูการนับคะแนนสรรหาดูแปลกๆ ซึ่งเหมือนตอนที่อยู่ใน ส.ว.ปี 2543 ซึ่งมีการบล็อกโหวตและคะแนนผู้ที่ได้รับการสรรหาก็ขึ้นเป็นแผง” นายสักระบุ
ขณะที่แหล่งข่าวจากผู้สมัครสายผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ได้รับการคัดเลือกอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า การคัดเลือก สป.ชุดที่ 3 จะคัดเลือกกันเอง ให้เหลือ 99 คน โดยสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิมีโควตามากที่สุดจำนวน 14 คน จากสัดส่วนอื่น อาทิ สัดส่วนอุตสาหกรรม สัดส่วนบริการ เป็นต้น โดยขั้นตอนการคัดเลือกของกลุ่มดังกล่าว มีผู้สมัครหลายพันคนและคัดเลือกเหลือ 98 คน และได้มีการนัดมาสรรหากันเอง ที่โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ ย่านโบ๊เบ๊ เป็นเวลา 2 วัน เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย 1 คน สามารถเลือกได้ 14 คน
“บรรยากาศการคัดเลือกแปลกประหลาด เพราะผู้ได้คัดเลือกจำนวน 14 คนไม่เข้าร่วมงานในวันแรก และวันที่ 2 ช่วงเช้าก็ไม่ได้เข้าร่วม แต่ช่วยบ่ายที่มีการคัดเลือกกลับเข้ามาสรรหา และปรากฏว่าได้รับการคัดเลือก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาจารย์จากต่างจังหวัด ซึ่งไม่มีชื่อเสียง ถึง 80%”
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ในระหว่างการโหวตคัดเลือกมีเรื่องผิดสังเกต เพราะผู้ได้รับการคัดเลือก 14 คนได้มีการโทรศัพท์โต้ตอบระหว่างกันตลอดเวลา แสดงให้เห็นว่ามีการล็อกสเปกกันชัดเจน อีกทั้งระเบียบการคัดเลือกก็มีความหละหลวม ไม่มีข้อการคัดเลือกที่มีคุณภาพ และผลเสียคือทำให้คนดีมีความสามารถไม่ได้เข้าไปทำงาน
“สาเหตุที่ทำให้มีการแย้งการเป็นสภาที่ปรึกษาฯ เพราะจะได้มีชื่อเสียงเกียรติยศในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาของ ครม. และที่สำคัญคือได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ส่วนเงินเดือนเป็นเรื่องรองเพราะมีค่าตอบแทนที่ต่ำมาก” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การคัดเลือกผู้ที่ได้รับการคัดเลือก สป.ชุดที่ 3 โดยสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 14 คนนั้นเป็นที่น่าแปลกใจ เพราะรายชื่อที่เข้ามาเป็นคนที่ไม่รู้จัก และยังไม่ส่งประวัติให้ผู้สรรหาให้ผู้คัดเลือกได้ดูคุณสมบัติ อีกทั้งบางคนยังมีคดีติดตัว แต่กลับได้รับการสรรหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงแต่ไม่ได้รับการคัดเลือก เช่น ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม อดีต รมช.คลัง ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ อดีตปลัด กทม. นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น นายอนันต์ ดาโลดม อดีต ส.ว. นายวิจิตร ณ ระนอง ประธานคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรม นายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ รองประธานกรรมการ บ.มติชน จำกัด (มหาชน) นายสุรชัย หวันแก้ว อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ว่าที่ ร.ต.สุรพล ดวงแข อดีตเลขาธิการมูลนิธิสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย นายสัก กอแสงเรือง อดีตนายกสภาทนายความและอดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นต้น
