“เฉลิมชัย” เมินข่าวถูกขึ้นแบล็กลิสต์ไม่ให้เป็นรัฐมนตรีของพรรค กร้าวบอกไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ไม่ตาย ซัดคนในสุมไฟเสี้ยมกันให้แตกแยก ย้ำไม่จำเป็นต้องแจงผู้ใหญ่ในพรรคเพราะไม่ได้ทำอะไร ปัดไม่ทราบข่าวพี่ชายเคลียร์ทางให้แล้ว แจงผู้ใหญ่ในพรรครู้ดีเห็นสวมเสื้อน้ำเงินร่วมงานรับ “ชวรัตน์” ยันไม่คิดย้ายพรรคไปไหน
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคกลาง กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่าถูกขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่ให้เป็นรัฐมนตรีในการปรับครม.คราวหน้าของพรรคว่า ไม่มีอะไรคนในพรรคที่ปล่อยข่าวนี้ออกมาก็เพ้อเจ้อไปเรื่อย สำหรับตนไม่ให้ความสำคัญอะไร เพราะไม่เคยต่อรองขอตำแหน่งใดๆ ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ไม่ตาย ดังนั้น การจะขึ้นแบล็กลิสต์หรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวกับตนและไม่สนใจด้วย เพราะถือว่าทุกอย่างเราไม่ได้ทำตามที่เขาคิด ตนก็อยากจะดูต่อไปเหมือนกันว่าจะมีอะไรออกมาอีก เพราะวันนี้เขาเล่นกันเป็นทีมแล้ว ตนไม่อยากพูดอะไรมาก คิดเพียงว่าส่วนหนึ่งที่ข่าวนี้ออกมาเพราะสื่อต้องการขายข่าว ซึ่งตรงกับคนที่ต้องการเสี้ยมให้คนในพรรคชนกันเอง เรื่องทั้งหมดขอให้จบไป ตนไม่อยากต่อล้อต่อเถียงอีก แต่ถ้ายังมาเล่นกันไม่เลิกอย่างนี้อีก ก็ขอบอกว่า สำหรับตนก็ไม่เคยกลัวใครเหมือนกัน ขอให้จบซะเพื่อพรรคของเรา
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องชี้แจงให้ผู้ใหญ่ของพรรคทราบหรือไม่ ว่าเป็นมาอย่างไร นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ไม่จำเป็นเพราะเราไม่ได้ทำอะไร ก็เพิ่งจะรู้ข่าวทางสื่อทางหนังสือพิมพ์วันนี้เองเช่นเดียวกัน หากอยากจะถาม นักข่าวก็ต้องไปถามคนที่ให้ข้อมูลมา สำหรับตนขออยู่นิ่งๆ ดีกว่า หากถามตนว่าวันนี้ต้องชี้แจงใครบ้าง ก็ตอบได้ว่าคงไม่ต้องไปชี้แจงใครในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ส่วนใครจะเข้าใจอย่างไรก็เรื่องของเขา แต่จำเป็นต้องชี้แจงคนประจวบฯและทีมงานในจังหวัดทั้งหมดว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่เข้าใจ ต้นสายปลายเหตุรู้แต่เพียงจากข่าวเท่านั้น
เมื่อถามต่อว่า มีข่าวว่า นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า นายวิรัช ปิยะพรไพบูลย์ พี่ชายของนายเฉลิมชัยได้มีการต่อสายโทรศัพท์ชี้แจงกับผู้ใหญ่ภายในพรรคแล้ว นายเฉลิมชัยระบุว่าเรื่องของตนไม่เกี่ยวข้องกับพี่ชายตน ทั้งนี้ อาจจะมีการคุยกัน แต่ตนไม่ทราบก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปดึงพี่ชายตนมาเกี่ยวข้องด้วย สำหรับตนการจะย้ายพรรค หรือไม่ย้ายพรรค ก็ไม่เกี่ยวกับพี่ชาย แต่ยืนยันว่ายังไม่เคยมีความคิดเรื่องนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดคำไหนให้หนักแน่นไปกว่านี้ เมื่อถามอีกว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะเป็นคนใจถึงพึ่งได้ จึงมีข่าวเช่นนี้ออกมาเรื่อยๆ นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ถ้าตนเป็นคนอย่างนั้นแล้วเป็นคนผิดก็อยากถามว่า แล้วจะให้ตนเป็นคนแบบไหน ถ้าตนใจไม่ถึงมีข่าวออกมาอย่างนี้ ก็คงจะไม่หนักแน่นอย่างทุกวันนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สวมเสื้อสีน้ำเงินในการต้อนรับ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในการตรวจเยี่ยมราชการที่ จ.ประจวบฯ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เป็นโครงการของกระทรวงมหาดไทย ชื่องานว่า “โครงการปกป้องสถาบันของชาติ” ซึ่งผู้ใหญ่ของพรรคเองก็เข้าใจดี เพราะที่ตนไปร่วมงานก็ไปในนาม ส.ส.ซึ่งเป็นงานของจังหวัด ซึ่งก็มีงานในลักษณะนี้ในเกือบทุกจังหวัด เพื่อรณรงค์ให้คนรักษ์สถาบัน ตนมีวิจารณญาณพอ ก็อยากถามว่า ถ้าเป็นวันอาทิตย์แล้วใครสวมเสื้อสีแดง จำเป็นว่าเขาต้องเป็น นปช.ด้วยอย่างนั้นหรือ ต้องดูเหตุดูผลด้วย เพราะการพูดว่าคน เป็นเรื่องง่ายแต่การแก้ข่าวที่ออกมาแล้ว มันไม่ง่าย และการที่ตนไม่พูดก็ไม่ใช่ว่าเพราะมีใครสั่ง แต่ไม่อยากเพราะเห็นว่า ไม่ใช่ธุระ
