xs
xsm
sm
md
lg

อินทรีอีสานสิ้นฤทธิ์ กลุ่ม “ประชา”ดิ้นต่อลมหายใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เสียคนตอนแก่ไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไม่เข็ด?

จากที่ไปขานชื่อสนับสนุนตัวเองให้เป็นนายกรัฐมนตรี ตอนชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

แม้จะเป็นเรื่องทำได้ แต่มันก็ไม่ใช่วิถีของสุภาพบุรุษการเมืองที่จะทำเช่นนั้น

“บิ๊กผิว”พล.ต..อ.ประชา พรหมนอก

ทำไปได้!

มายามนี้ ก็แก้ผ้าอ้าซ่าแบบไม่เหนียมอาย หลังเห็นว่ากำลังจะมีการปรับครม.เลยไม่อยากตกขบวน ประกาศโต้งๆ ว่า พร้อมจะร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไปช่วยเทเสียงหนุนให้รัฐบาลในตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือนมีนาคม ก็เลยคิดว่าถึงเวลาต้องตอบแทนกันได้แล้ว

แต่ยังไว้ลายว่า ไม่เอาเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ถ้าได้ ก็ให้สมาชิกในกลุ่มไปทำงานให้พี่น้องประชาชน

พอตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอร่วมรัฐบาล –เอาเก้าอี้ รมต.แบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าของบ้านอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้จัดการรัฐบาลก็ประกาศชัดว่า ไม่ให้เข้าบ้าน ไม่มีแนวคิดนำ “กลุ่มประชา”มาเสียบ

แต่เมื่อประชาเล่นบทขอกันซึ่งๆ หน้า ก็อาจได้เห็น อภิสิทธิ์-สุเทพ พร้อมจัดให้ !

ที่น่าสนใจ ก็คือลีลาการเล่นการเมืองของ ประชา พรหมนอก ตั้งแต่อยู่ชาติพัฒนากับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ จนมาอยู่กับเพื่อแผ่นดิน พบว่ายังเล่นการเมืองแบบไม่สุดไปเสียทุกเรื่อง เลยไม่รุ่ง มีแต่จะร่วง

เพราะคิดว่าคนอื่นอ่านความต้องการตัวเองไม่ออก

ว่าวันนี้ขอให้ได้เข้าไปเสียบในเสียงซีกรัฐบาลก่อน แม้จะให้เก้าอี้รัฐมนตรีแก่คนอื่นในกลุ่มไป จนสร้างภาพเหมือนผู้ใหญ่เสียสละให้ลูกน้อง แต่ลึกๆ แล้วมันก็อ่านกันออกว่า ประชาหวังให้สถานภาพตัวเองมั่นคงเสียก่อนในฐานะกลุ่มก๊วนในซีกรัฐบาล

จากนั้นค่อยขยับไปเรื่อยๆ เช่นหากมีการปรับครม.รอบใหม่ก็ค่อยรอเสียบตอนนั้นก็ยังไม่สาย ขอเพียงแค่วันนี้เอาตัวไปเป็นฝายรัฐบาลให้ได้เสียก่อน

ไม่ใช่เป็นกลุ่มการเมืองแบบไม่มีหลัก ลอยไปลอยมา จะเป็นฝ่ายค้านก็ไม่ใช่ รัฐบาลก็ไม่เชิง มันเลยทำอะไรไม่ได้ ขยับอะไรก็ไม่ออก

เอาแค่โควตากรรมาธิการสภาฯ เพื่อให้ส.ส.ในกลุ่มไปนั่งทำงานก็ไม่สามารถทำได้เพราะสถานะของกลุ่มไม่ได้อยู่ในซีกเพื่อแผ่นดินในทางการเมือง ทำให้การเคลื่อนไหวการเมืองเป็นไปอย่างยากลำบาก

จนสมาชิกในกลุ่มแตกกระสานซ่านเซ็น ตอนนี้หลายคนก็กลับไปอยู่กับพรรคเพื่อแผ่นดินอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะเห็นแล้วว่าขืนอยู่กับประชาต่อไปก็ไม่มีอนาคต ทำให้ส.ส.ในกลุ่มจากเดิมที่มีประมาณ 12 คน ซึ่งหากตอนนั้นไปร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์เสียแต่แรก ป่านนี้ได้โควตารัฐมนตรีอย่างน้อย 2 เก้าอี้สบายๆ แล้ว

แถมเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ก็วืด แม้จะต่อสู้ทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน จะได้ใช้ตำแหน่งนี้ที่มีผลรับรองตามกฎหมายแต่พอวืดก็เดินหน้าไม่เป็น

เหตุเพราะประชา ก็ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ ทำให้พลิกสถานการณ์ทุกเรื่องช้าตามหลังคู่แข่งตลอดเวลา วันนี้ประชา ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน เลยได้แต่รอลุ้นกับการตัดสินของกกต.ว่าจะมีมติยุบพรรคเพื่อแผ่นดินหรือไม่

เพื่อให้ทุกอย่างกลับไปนับหนึ่งใหม่ เช่นการย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ที่มีทางเลือกดีกว่าอยู่แบบซังกะตายไร้อนาคตอย่างเช่นทุกวันนี้

เพราะจากเดิมบ้านวิภาวดี 60 ที่เคยคึกคัก ในวันที่แกนนำประชาธิปัตย์ ตบเท้าขอคะแนนเสียง และเพื่อไทยส่งเทียบเชิญให้ชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และวันนั้นประชาเลือกที่จะอยู่กับทักษิณ ชินวัตรและเพื่อไทย

เพราะหวังในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ว่าจะมีบุญวาสนาแบบไม่คาดฝัน แต่เมื่อตัดสินใจผิดพลาดพ่ายแพ้แบบไม่มีชิ้นดี แถมกลับมาแก้มืออีกครั้งกับเก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ก็ไปไม่ถึงดวงดาว

แบบนี้ลูกทีมเริ่มมีข่าวว่าถอยหนี ไม่ไปแวะเวียนพบหาประชาทั้งที่บ้านพักและอาคารเบญจมาศ ถนนพิชัย ที่ทำการของกลุ่มประชา พรหมนอกกันแล้ว บางคนก็กลับมาอยู่กับเพื่อแผ่นดินเหมือนเดิม เพราะเห็นแล้วว่าอยู่กับประชา แทบจะไม่มีอนาคต เหตุเพราะไม่รู้ว่าประชาจะเอาอย่างไรต่อไปในทางการเมือง สู้หาความชัดเจนกันไปเลยดีกว่ากับพรรคอื่น กลุ่มอื่น

ทำให้กลุ่มประชา พรหมนอก วันนี้นับไปนับมา เหลือแค่ นพ.วัลลภ ไทยเหนือ สมเกียรติ ศรลัมภ์ ส.ส.สัดส่วน นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ ส.ส.นราธิวาส แถมบางคนในรายชื่อข้างต้นก็เตรียมหาลู่ทางสลัดทิ้งประชาแล้ว เพียงแต่ยังหาจังหวะเหมาะไม่ได้

ดูตัวอย่างง่ายเช่นกรณีของ “หมอแว”ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นหัวหอกหลักให้เพื่อแผ่นดินในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนนำลูกทีมใน “กลุ่มสัจจานุภาพ”เข้าสภาฯได้สี่คน

วันนี้เมื่อสัจจานุภาพแตกเละ

“หมอแว”เองก็ต้องดิ้นรนหาทางออก เพราะหากอยู่กับประชาต่อไป ก็คงลำบากเพราะดูก็รู้ว่าประชาเองที่มีข่าวจะไปทำพรรคราษฎรกับ มั่น พัธโนทัย อดีต รมว.ไอซีที ที่ไปปูทางเอาไว้แล้ว ประเมินแล้วคงยากจะเติบโตในทางการเมืองได้

ยิ่งกับการหาเสียงในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว แม้ “หมอแว”จะมีคะแนนเสียงดีอย่างไร แต่หากพรรคไม่พร้อมก็อาจถึงขั้นสอบตกได้เช่นกัน จึงมีข่าวว่าระยะหลัง “หมอแว”เริ่มต่อสายกับส.ส.หลายพรรคทั้งประชาธิปัตย์ หรือซีกประชาภิวัฒน์ของมนูญกฤต รูปขจร ในการจะออกไปร่วมงานการเมืองด้วย

ขณะที่ ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ไชยยันต์ ก็อายุมากแล้ว และคงไม่หวังจะคิดเป็นส.ส.ในสมัยหน้า

กลุ่มประชา พรหมนอก จึงเป็นการรวมตัวกันแบบหลวมๆ เพื่อรอแยกย้ายกันไปเท่านั้น ทำให้อำนาจการต่อรองแทบไม่มี การประกาศพร้อมร่วมรัฐบาลแบบไม่มีเงื่อนไขของประชา

จึงเป็นการเปลือยทางการเมือง ที่เห็นตัวตนของประชาดีที่สุด

แถมไม่พอการให้ “หมอแว”ออกมาสำทับว่าหากทางกลุ่มไม่ได้รับการพิจารณาเข้าร่วมงานในซีกรัฐบาล ก็อาจทำให้การลงคะแนนเสียงร่าง พ.ร.บ.งบปี 53 มีปัญหา ถือเป็นการเล่นการเมืองแบบเก่าๆ ที่คิดใช้ทุกช่องทางมาต่อรองขอเก้าอี้ อันถือเป็นอีกหนึ่งการเดินเกมที่ผิดพลาดอย่างเห็นได้ชัดของกลุ่มประชา พรหมนอกที่อ่านกระแสสังคมผิดพลาด

ด้วยสภาพเช่นนี้ เลยมีข่าวว่าประชาทำหลายอย่างเพื่อให้กลุ่มตัวเองได้มีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาล โดยเฉพาะการพยายามต่อสายปรับความเข้าใจกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากก่อนหน้านี้แกนนำพรรคหลายคนโดยเฉพาะสุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงกับฉุนขาดกับการที่ประชาลงสมัครชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ทั้งที่ในวันซึ่ง อภิสิทธิ์-สุเทพ บุกบ้านประชาที่ซอยวิภาวดี 60 เพื่อยกกระเช้าไปแสดงความยินดีในวันรุ่งขึ้น หลังจากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน แล้วสื่อมวลชนถามประชาให้อภิสิทธิ์-สุเทพได้ยินว่าพร้อมจะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยประชาตอบเสียงดังฟังชัดว่า

ไม่คิดไกลไปถึงขนาดนั้น

ทำให้ทั้งสองคนวางใจว่าประชาจะไม่ออกลีลาพลิ้วให้เสียผู้ใหญ่ แต่ตอนหลังประชากลับไปหลงเชื่อ นช.ทักษิณ ชินวัตร-เสนาะ เทียนทอง ที่ร่ายคาถาให้ประชาฝันถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

จนลงสมัครชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ถึงกับทำให้แกนนำ ปชป.ประกาศกลางวงประชุมตอนตั้งรัฐบาลว่า รับไม่ได้กับการไม่รักษาคำพูด

แต่วันนี้แกนนำปชป.เริ่มใจอ่อนหลัง “ประชา”เทียวไปเทียวมาทางการเมืองขอผูกสัมพันธ์ด้วย

ก็อาจเป็นไปได้ว่า จะเห็น “กลุ่มประชา”ในฐานะซีกรัฐบาลอย่างเป็นทางการในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ทั้งที่จะว่าไปจริงๆ แล้วประชาที่เป็นส.ส.เพื่อแผ่นดินก็ถือเป็น ส.ส.รัฐบาลอยู่แล้ว เพียงแต่ไปสร้างความสับสนให้กับสังคม และตัวเองว่าจะเอายังไงกันแน่ จะอยู่เพื่อแผ่นดินหรืออยู่กลุ่มอิสระ

แต่ยิ่งประชาดิ้นรนมากเท่าไหร่ หลายคนก็เห็นว่า เขากำลังหมดราคาทางการเมืองลงไปทุกที
กำลังโหลดความคิดเห็น