xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อแม้ว” สุมหัวสัมมนาดิสเครดิต “มาร์ค”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร - นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์
"เพื่อไทย" จัดสัมมนาส.ส.พรรค แกนนำหน้าเก่า-หน้าใหม่ร่วมงานเพียบ ไม่เว้นแม้คนตระกูลชินวัตร พร้อมถกปัญหาเศรษฐกิจระดมสมองก่อนเศรษฐกิจล่มสลาย เชิญ "โอฬาร-สุชาติ"ร่วม ซัดรัฐบาล "มารค์" มาผิดทางขึ้นภาษี เพิ่มภาระประชาชน เปรียบหยัดเงินเข้ากระเป๋าซ้ายดูดออกกระเป๋าขวา แนะลอกนโยบายรัฐบาลเกาหลีใต้-จีน กระตุ้นการบริโภคประชาชน ขณะที่ “มิ่งขวัญ” ติง หารายได้เข้าประเทศด้วย ไม่ใช่แค่กู้และขึ้นภาษี

วันนี้(21 พ.ค.) ที่โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ เมื่อเวลา 09.00น. พรรคเพื่อไทยจัดสัมมนาส.ส.พรรคเพื่อไทยในหัวข้อ “ระดมสมองก่อนเศรษฐกิจล่มสลาย” ทั้งนี้มีแกนนำ ส.ส.ของพรรค อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน และแกนนำกลุ่มนปช. เดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นายพายัพ ชินวัตร ประธานส.ส.ภาคอีสาน และน้องชายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรค นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสุธรรม แสงประทุม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน นายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน นายนพดล ปัทมะ อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มนปช. และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มนปช. นอกจากนี้ นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เดินทางมาร่วมงานสัมมนาด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการสัมมนาจะเริ่มขึ้นนั้น ได้มีการเปิดซีดีนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่มีการแจกให้กับส.ส.และผู้สมัครส.ส.ของพรรค คนละ 5 แผ่นด้วย จากนั้นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวเปิดการสัมมนาว่า ว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ต้องการให้สมาชิกทุกคน ส.ส. และผู้สมัครส.ส. มีความมั่นคงที่จะอยู่กับพรรค เพราะทุกคนมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นการสัมมนาในการระดมสมองฯจะเป็นประโยชน์กับทุกคน

“โอฬาร” แนะ รัฐลอกนโยบายเศรษฐกิจของเกาหลีใต้-จีน

จากนั้นนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้บรรยายด้านเศรษฐกิจในหัวข้อ “วิกฤตเศรษฐกิจไทย ปัญหาและทางออก” โดยมีนายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ดำเนินรายการ โดยนายโอฬาร กล่าวว่า จุดสำคัญที่ทำให้ประเทศต่างๆสามารถฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำคือ ไม่ขึ้นภาษี เพื่อเพิ่มรายจ่ายให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการบริโภคของประชาชน แต่ประเทศไทยกลับเลือกการเอาเงินใส่กระเป๋าซ้ายและดึงเงินออกจากกระเป๋าขวาของประชาชน ซึ่งจะทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รัฐบาลควรมีนโยบายแบบเดียวกับเกาหลีใต้ที่เน้นให้อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศอ่อนตัวลง เพื่อช่วยกระตุ้นภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว ส่วนนโยบายด้านสินเชื่อควรดูตัวอย่างประเทศจีนในการจัดสรรวงเงินสินเชื่อให้กับภาคเอกชนมากขึ้น เพราะจะช่วยกระตุ้นให้มีการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น

ชี้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจรากหญ้า สร้างฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ

ด้านนายสุชาติ กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทยรัฐบาลให้ความสำคัญน้อยมากในการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน นอกจากนี้ เรื่องหนี้สาธารณะนั้นหากเกินหว่า 50% ของGDPจะมีปัญหา เพราะฐานภาษีของไทยอยู่ 15% ของ GDP ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งจะสร้างปัญหาในการบริหารจัดการเงินคงคลังและการบริหารงบประมาณรายจ่ายในระยะต่อไป พรรคเพื่อไทยได้แสดงจุดยืนที่สำคัญในการบริหารเศรษฐกิจแบบ 2 แนวทางพร้อมๆกัน โดยเน้นการสร้างรายได้ให้กับประเทศ ด้วยการส่งเสริมการส่งออก การลงทุนโดยตรงระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยว รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจรากหญ้าที่เป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ

ขณะที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงสรุปประเด็นด้านเศรษฐกิจว่า การตั้งงบกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประชาธิปัตย์ตามแนวทางที่ดำเนินการมาถือว่าเป็นสิทธิ์ในการบริหารงานของรัฐบาล แต่ต้องมาดูถึงประสิทธิภาพของการบริหารจัดการด้วย เช่น เรื่องการจ่ายเช็คช่วยชาตินั้นถือเป็นเรื่องที่ดีของประชาชนที่ได้เงิน แต่มีผลในทางกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ หรือหลายโครงการก็เป็นเรื่องที่ดี อย่างเรื่องการศึกษา แต่แนวทางที่ถูกต้องนั้นควรจะใช้เป็นงบประจำและต้องทำต่อเนื่อง ไม่ใช่ใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจมาดำเนินการ สิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นตอนนี้คือการจัดเก็บรายได้ไม่ตรงเป้า ซึ่งตอนนี้ขาดไปถึง 3 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลกลับแก้ไขปัญหาด้วยการกู้เงิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าหนี้สาธารณะจนอาจจะสูงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี และจะกระทบต่อเครดิตของประเทศ ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้แพงขึ้น ดังนั้นนอกจากรัฐบาลจะกู้เงินและหาเงินเพิ่มจากการเพิ่มภาษีแล้ว รัฐบาลควรจะทำให้เกิดความชัดเจนในการหารายได้เข้าประเทศให้มากขึ้นด้วย

ขณะที่ในช่วงบ่ายจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองจาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ปิดท้ายด้วยการแถลงผลการสัมมนาโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรค ร่วมกับ ส.ส.พรรคคนอื่นๆ



แก๊งหัวขวดผู้ต้องหาคดีก่อความไม่สงบช่วงสงกรานต์ มากันพร้อมหน้า
Description: นพดล ปัทมะ (กลาง)ทนายหน้าหอ ไม่พลาดงานนี้

พายัีพ ชินวัตร


กำลังโหลดความคิดเห็น