นักธุรกิจออสเตรเลียเข้าพบ “นายกฯ” เผยมั่นใจแผนกระตุ้น ศก.ของไทย พร้อมร่วมลงขันโครงการเมกะโปรเจกต์ ด้าน “อภิสิทธิ์” แจงแผนกระตุ้น ศก.ระยะสอง เน้นลงทุนโครงการขนาดใหญ่ พร้อมเปิดรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาต่างๆ ของนักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนในไทย
วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงแคนเบอร์รา ออสเตรเลีย นำคณะนักธุรกิจรัฐควีนส์แลนด์ เข้าเยี่ยมคารวะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยนายบัณฑิต กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีในโอกาสอนุญาตนำคณะนักธุรกิจรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มนักธุรกิจการรถไฟ เช่น บริษัท Quantm บริษัท IQR บริษัท Ansaldo STS และคณะ Queensland Thailand Business Partnership (QTBP) อาทิ บริษัท W2 Power ซึ่งดำเนินธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพ และบริษัท Winning Yachts ซึ่งดำเนินธุรกิจเรือและอะลูมิเนียม ซึ่งนักธุรกิจต่างแสดงความสนใจในสถานการณ์ทางการเมือง และแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาล รวมถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยแสดงความพร้อมในการร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล เช่น โครงการเมกะโปรเจกต์ ทั้งนี้ นักธุรกิจได้แสดงความมั่นใจในการลงทุนในประเทศไทยต่อไป
ในโอกาสนี้ นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวสร้างความมั่นใจต่อนักธุรกิจฯ ถึงมาตรการการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ระยะ โดยในระยะแรกได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ การคงและเพิ่มรายได้ของประชาชน และการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน สำหรับมาตรการระยะที่สอง เป็นการกระตุ้นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ทั้งในระบบโครงสร้างคมนาคมและ สาธารณูปโภค รวมทั้งการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทยในระยะยาว โดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (Mega Projects) จะอยู่ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ของรัฐบาล 7 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ด้านคมนาคม พลังงาน การศึกษา ท่องเที่ยว สาธารณสุข ส่งเสริมศักยภาพชุมชนและสร้างสรรค์นวัตกรรมรูปแบบใหม่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองของไทยว่า รัฐบาลได้นำความขัดแย้งกลับเข้าสู่การแก้ปัญหาในรัฐสภา โดยมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางและข้อเสนอ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานนักสำหรับกระบวนการต่างๆ แต่ทั้งนี้ การแก้ปัญหาความขัดแย้งที่สะสมมาเป็นปีๆ จะต้องใช้เวลาในการแก้ไขเพื่อให้ความสงบและสมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมุ่งมั่นในการส่งเสริมบรรยากาศการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ และพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอและปัญหา เพื่อให้การดำเนินธุรกิจในไทยประบความสำเร็จและเป็นมิตรกับนักลงทุน