สวนดุสิตโพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล กรณีส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลเปิดเวทีมวยกลางสภา ระบุร้อยละ 40 เชื่อเหตุปะทะเพราะขาดการคุมอารมณ์ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ส่วนร้อยละ 70 เชื่อส่งผลต่อน่าเชื่อถือ หมดศรัทธาในนักการเมือง ทำสภาขาดความศักดิ์สิทธิ์
วันนี้(16 พ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่สนใจติดตามกรณีเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่าง ส.ส.พรรคไทยเพื่อไทย กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กลางที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยสำรวจประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,410 คน ในช่วงบ่ายของวันที่ 14-15 พฤษภาคม 2552 พบว่า ร้อยละ 39.62 มองว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทในสภาคือ ขาดการควบคุมอารมณ์ และขาดสติ ร้อยละ 33.04 และเห็นว่าเป็นนิสัยส่วนตัว ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน และร้อยละ 14.07 ขาดจริยธรรมในการเป็นนักการเมือง โดยประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 73.10 ต่างมองว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลต่อความรู้สึกของประชาชน เพราะทำให้ขาดความเชื่อมั่น หมดความศรัทธาในตัวนักการเมือง และรู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
นอกจากนี้ประชาชนยังมองว่า เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐสภาอย่างมาก โดยทำให้สภาขาดความศักดิ์สิทธิ์ ระบบรัฐสภาไทยมีความอ่อนแอและตกต่ำลง ดังนั้นจึงต้องสร้างจิตสำนึก และปลูกฝังจริยธรรมของการเป็นนักการเมืองที่ดี โดยประธานสภาต้องเข้มงวด และเด็ดขาดมากขึ้น ตลอดจนต้องเร่งสร้างความสมานฉันท์ทางการเมือง