“มาร์ค” ยอมรับเลื่อนประชุมอาเซียนกระทบภาคธุรกิจ ต้องทำความเข้าใจข้อเท็จจริง ชี้ประชุม จนท.อาวุโส 19 พ.ค.ได้คำตอบ ลั่น ต.ค.ไทยต้องจัดประชุมให้ได้ แจงเดือน ส.ค.ไม่สะดวกโปรแกรมแน่น ขณะเดียวกัน ไม่สนยุบสภา-ลาออก เชื่อ คกก.ปฏิรูปการเมืองเดินหน้าได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (14 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ภาคธุรกิจจะเสียหายมากหากไม่มีการชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เบื้องต้นเรียนข้อเท็จจริงปัญหาเรื่องเวลาที่ทุกฝ่ายสะดวก ต้องยอมรับว่าการประชุมระดับแบบนี้จะกำหนดกันล่วงหน้าครึ่งค่อนปี แต่ของเราเกิดเหตุเดือน เม.ย. และพยายามจัดแทน เวลาก็กระชั้น คิดว่าความชัดเจนจะมีมากขึ้นในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสที่ภูเก็ต ในวันที่ 19 พ.ค. และจะมีคำตอบออกมา โดยได้มอบหมายว่าที่ประชุมต้องเป็นผู้พิจารณาว่าเมื่อจัดเดือน มิ.ย.ไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดในการเดินหน้าความร่วมมือ EIS คืออะไร
“ประเทศไทยอยู่ถึง คืออย่ากังวลว่าเป็นรัฐบาลไหน ประเด็นก็คือเรื่องนี้เป็นงานของประเทศ ประเทศเราต้องจัดให้ได้ ส่วนแนวโน้มที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่ารัฐบาลต้องยุบสภาภายใน 3 เดือนนั้น คงไม่เกี่ยวกันนะครับ มาถามผม ผมก็บอกว่าเรื่องนี้ผมจะอยู่ไม่อยู่ ประเทศไทยต้องจัดให้ได้ เป็นงานของคนไทยทุกคน แต่ว่าผมก็ไม่คิดว่าจะไปไหนหรอกครับ” นายอภิสิทธิ์ตอบคำถามที่ว่าคิดว่าจะอยู่ถึงเดือนตุลาคม และประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพจัดได้หรือไม่
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะจัดในคราวเดียวกันเดือน ต.ค. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นไปได้ตรงที่ว่าหลายเรื่องเป็นความริเริ่มฝ่ายเดียวของประเทศคู่เจรจาที่เดิมจะมาใช้เวทีตรงนี้ ก็อาจจะมีการประชุมกันเองบ้าง ประชุมฝ่ายเดียวบ้าง ประกาศฝ่ายเดียวบ้าง ส่วนแถลงการณ์ร่วมทางเจ้าหน้าที่อาวุโสจะไปดูแล้วมีการประกาศออกไป เป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งการจัดการประชุมเดือน ส.ค.มีโปรแกรมอาเซียนแน่นอยู่แล้ว ในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีความมั่นคงบ้าง ถ้าไปจัดเดือน ส.ค. บางคนอาจจะมองว่าเดือน ส.ค. และเดือน ต.ค.มีความใกล้กันมาก มีความเป็นไปได้อาจจะยกยอดไป
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการประชุมของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่รัฐสภาตั้งขึ้นที่อาจจะมีความขัดแย้งว่า ตนได้สอบถามคณะกรรมการของพรรคที่เข้าไป ก็เห็นมีการทำงานอย่างแข็งขันดีในอนุกรรมการ คือ เรื่องการแก้ปัญหาทางการเมืองเริ่มจากความคิดเห็น และความเชื่อที่แตกต่างทางการเมือง จะไปคาดหวังว่าการประชุมแล้วจะเห็นพ้องต้องกันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว สำคัญว่าจะสำเร็จหรือไม่ อยู่ที่กระบวนการว่าสามารถเอาความแตกต่างตรงนี้มาอยู่ในกรอบ กติกา และกระบวนการที่ทุกฝ่ายพร้อมที่จะเดินหรือไม่ ถึงวันนี้ยังได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่ายอยู่
เมื่อถามว่า คิดว่ากลไกนี้จะประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังให้โอกาสเต็มที่ คิดว่าคนที่รับผิดชอบรู้ว่ามีความสำคัญอย่างไรต่ออนาคตของบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเดินทางไปเยือนฮ่องกงในวันที่ 15 พ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปพบกับนักธุรกิจทั้ง 3 กลุ่ม รวมไปถึงการพบทางการเป็นเยี่ยมเยียนทางการทำงาน ส่วนเรื่องที่ยูเนสโกเข้ามาดูเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชานั้น เป็นเรื่องมรดกโลกจะเข้ามาดูเรื่องที่กัมพูชาจะต้องดำเนินการตามกำหนดของยูเนสโก จะมีการเคลื่อนไหวตรงนี้ หากมีการเข้ามาในพื้นที่ของไทยจะต้องแจ้งเพื่อให้ไทยให้ความเห็นชอบ และดูแลอำนวยความสะดวก ขณะนี้มีปัญหากันอยู่
