ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า ความสำเร็จจากการจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน+3 จะสามารถกู้หน้าประเทศไทยได้ระดับหนึ่ง หลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+3+6 ที่ จ.ชลบุรี ต้องล้มไปเนื่องจากปัญหาการชุมนุม ซึ่งความเชื่อมั่นที่กลับคืนมาจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และถือเป็นบันไดสู่ความสำเร็จครั้งใหญ่ เนื่องจากตลอดทั้งปีไทยจะต้องเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในกรอบอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมด้านความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ และการประชุมสุดยอดผู้นำอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้
ส่วนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+3+6 ที่จะจัดขึ้นอีกครั้งที่ จ.ภูเก็ต ในเดือนมิถุนายน โดยมีแนวโน้มว่า รัฐบาลอาจบังคับใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุม และให้การประชุมราบรื่นนั้น นายสุรินทร์ ยอมรับว่า หากมีการประกาศใช้จริง ทางสำนักเลขาธิการอาเซียนจะต้องชี้แจงให้ประเทศที่เข้าร่วมประชุมเข้าใจถึงเหตุผลที่รัฐบาลไทยต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า อาเซียนได้รับการชื่นชมในการจัดการประชุมลักษณะนี้ เพื่อระดมความร่วมมือการป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในภูมิภาค ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดี
ส่วนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน+3+6 ที่จะจัดขึ้นอีกครั้งที่ จ.ภูเก็ต ในเดือนมิถุนายน โดยมีแนวโน้มว่า รัฐบาลอาจบังคับใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมประชุม และให้การประชุมราบรื่นนั้น นายสุรินทร์ ยอมรับว่า หากมีการประกาศใช้จริง ทางสำนักเลขาธิการอาเซียนจะต้องชี้แจงให้ประเทศที่เข้าร่วมประชุมเข้าใจถึงเหตุผลที่รัฐบาลไทยต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นอกจากนี้ นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า อาเซียนได้รับการชื่นชมในการจัดการประชุมลักษณะนี้ เพื่อระดมความร่วมมือการป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในภูมิภาค ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดี