ศาลปกครองกลาง สั่งจำหน่ายคดีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ฟ้อง “ชายอำมหิต-ผบ.ตร.-สตช.” กระทำเกินกว่าเหตุ สั่งใช้แก๊สน้ำตาสลายชุมนุมเหตุล้อมสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 จึงสั่งคุ้มครองให้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล ดังนั้น เมื่อการชุมนุมยุติ เหตุแห่งการฟ้องคดีจึงสิ้นสุด จึงมีคำสั่งให้จำหน่ายออกจากสารบบ
วันนี้ (13 พ.ค.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค.51 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว คดีฟ้องยุติการสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันที่ 7 ต.ค.2551 ที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้นสั่งให้มีการใช้แก๊สน้ำตาวัตถุระเบิด อาวุธสงคราม และอาวุธอื่นๆ ยิงใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนมากที่ปิดล้อมอาคารรัฐสภา โดยให้ นายสมชาย, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3 หากจะกระทำการใดๆ ต่อผู้เข้าร่วมชุมนุมต้องดำเนินการเท่าที่จำเป็นโดยคำนึงถึงความเหมาะสม มีลำดับขั้นตอนตามหลักสากล ที่ใช้ในการสลายการชุมนุมของประชาชนและให้ผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ใช้อำนาจหน้าที่ของตนบังคับบัญชาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาลจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งคดีดังกล่าว นายดนัย ดั่งคุณธรรม, นายสัมพันธ์ โกศิริสัญต์, นายประทีป ศรีเรือง, นางจิตรกุล นกแก้ว, นายสมพงษ์ สิทธิหัตถการ และ นายจตุรภัทร ระหาร ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม, น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.และ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้ยื่นฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องทั้งสาม เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานทางปกครอง ใช้อำนาจหน้าที่กระทำการปกครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเกินความจำเป็นแก่เหตุ
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2552 นายสมชัย วัฒนการุณ ตุลาการศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวน และองค์คณะ มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากเห็นว่าเหตุแห่งการฟ้องคดีสิ้นสุดลงแล้ว โดยคำสั่งศาล ระบุว่า ผู้ฟ้อง มีคำขอให้ศาลมีคำสั่ง หรือ คำพิพากษา ให้ผู้ถูกฟ้องทั้งสาม รวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้ถูกฟ้องทั้งสาม ยุติการกระทำที่ใช้วัตถุระเบิด และอาวุธใดๆ ที่มีอานุภาพในการทำลายชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของผู้ฟ้องและประชาชนเข้าร่วมชุมนุมในบริเวณที่ชุมนุม แต่เมื่อปรากฏว่าผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้อง รับข้อเท็จจริงร่วมกันแล้วว่า ผู้ฟ้องทั้งหกที่เข้าร่วมชุมนุม ได้ยุติการชุมนุมแล้ว กรณีจึงไม่มีความจำเป็นที่ศาลจะมีคำบังคับให้ผู้ถูกฟ้องทั้งสามรวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้ถูกฟ้องทั้งสาม ยุติการกะทำที่ใช้ วัตถุระเบิด และอาวุธใด ๆ ที่อานุภาพในการทำลายชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน เพราะไม่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ฯ อีกต่อไปแล้ว
ส่วนที่ผู้ฟ้องทั้ง 6 อ้างว่า ผู้ฟ้องและพวกบางคนสูญเสียคนอันเป็นที่รัก บางรายสูญเสียอวัยวะ และบางรายยังต้องรักษาต่อเนื่องไม่สามารถใช้ชีวิตปกติดังเดิมนั้น ศาลเห็นว่า ผู้ฟ้องไม่ได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีนี้แต่อย่างใด ศาลจึงไม่อาจพิจารณาพิพากษาและมีคำบังคับให้มีการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ฟ้องทั้งหกได้ ศาลจึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ