“อภิสิทธิ์” ยังไม่ยืนยันข่าว “ทักษิณ” ประมูลซื้อเกาะที่ยุโรป คาด “กษิต” รายงานในที่ประชุม ครม.พรุ่งนี้ ขณะที่บัวแก้วสั่งทูตไทยในฮังการีตรวจสอบข่าวมอนเตเนโกรให้พาสปอร์ต “นช.แม้ว” พร้อมสอบถามสถานทูตมอนเตเนโกรในจีนและสหประชาชาติอีกทาง “เทพเทือก” ขู่หากปลุกปั่นทางการเมืองอีก ใช้ กม.ระหว่างประเทศจัดการแน่
วันนี้ (12 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเอเวอเรสต์ กันกระสุนซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับรถที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตี ฝ่ายความมั่นคงใช้ โดยเป็นรถที่ทางบริษัทเอกชนส่งมาให้ทดลองใช้ฟรี ภายหลังเหตุการณ์เสื้อแดงทุบรถที่พัทยา และกระทรวงมหาดไทย
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี จะเข้าร่วมประมูลซื้อเกาะสเวตินิโคลา ของสาธารณรัฐมอนเตเนโกร เพื่อหวังจะได้รับวีซ่าเสรีเข้า-ออกประเทศในสหภาพยุโรปว่ามีรายงานอยู่ แต่ยังไม่มีอะไรยืนยัน ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีรายงานมา เพราะนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศยังติดภารกิจคงจะไปสรุปกันที่กระทรวง และจะรายงานในที่ประชุมครม.ในวันที่ 13 พ.ค.นี้
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงกล่าวเช่นกันว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ
ส่วนหาก พ.ต.ท.ทักษิณยังมีการเคลื่อนไหวจริงจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าเขาไปเคลื่อนไหวในลักษณะของการปลุกปั่นหรือก่อความไม่สงบให้ประเทศไทยก็ต้องใช้กฎหมายระหว่างประเทศดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าไปยังประเทศใดประเทศนั้นๆ ก็คงมีการรายงานเข้ามา รวมทั้งถ้า พ.ต.ท.ทักษิณมีพฤติกรรมปลุกปั่นสร้างความไม่สงบเสียหายให้กับประเทศไทยเขาก็ต้องรายงานมาให้เราได้รับทราบด้วย
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวถึงรายงานข่าวที่ว่าองค์กรพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอ เรียกร้องให้รัฐบาลมอนเตเนโกร ชี้แจงการออกพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ให้ไปตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงตามข่าวที่เกิดขึ้นว่าสาธารณรัฐมอนเตเนโกร ออกหนังสือเดินทางให้จริงหรือไม่ และข่าวดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่ด้วย โดยให้เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ซึ่งดูแลพื้นที่ดังกล่าวตรวจสอบ เนื่องจากไทยและสาธารณรัฐมอนเตเนโกร เพิ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปลายปี 2550 จึงยังไม่มีการตั้งสถานเอกอัครราชทูต
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะซื้อเกาะในประเทศดังกล่าวในเบื้องต้นคงยังไม่มีการตรวจสอบ เพราะถือเป็นสิทธิของนักธุรกิจทั่วไปที่จะดำเนินการได้ ทั้งนี้ นายพนิชย้ำว่า ไทยได้ดำเนินการกับประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูต โดยขอความร่วมมือ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาดำเนินคดีทางกฎหมาย
มีรายงานว่า นอกจากกระทรวงการต่างประเทศได้สั่งการให้สถานทูตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ซึ่งเป็นสถานเอกอัครราชทูตที่ใกล้ประเทศมอนเตเนโกรมากที่สุด ได้ตรวจสอบเรื่องหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว อีกทั้งยังได้สั่งการไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูตมอนเตเนโกร ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นสถานเอกอัครราชทูตที่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด และยังให้คณะทูตถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ต่อกับคณะทูตถาวรมอนเตเนโกร ประจำสหประชาชาติ ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน