xs
xsm
sm
md
lg

“3 หนา” โล่ง! ที่ปรึกษากฎหมาย กกต.สรุปไม่ต้องจ่าย 2 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ และนายวีระชัย แนวบุญเนียน(เดินตามหลัง) อดีต กกต.ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปเรือนจำหลังจากศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกคนละ 4 ปี เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2549
กกต.ชุด “3 หนา” โล่งอก ที่ปรึกษากฎหมาย กกต.สรุปไม่ต้องรับผิดชอบจ่ายเงิน 2 พันกว่าล้าน กรณีจัดเลือกตั้ง 2 เม.ย.โดยมิชอบ อ้างคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมีมติเป็นความผิดไม่ร้ายแรง ขณะกระทรวงคลังเห็นสอดคล้องด้วย

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการประชุมพิจารณาและรับทราบความเห็นของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.ที่เสนอความเห็นว่า การกระทำของ กกต.ชุดของ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธานกรรมการการเลือกตั้ง ที่จัดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.49 นั้น เป็นการกระทำตามหน้าที่ และไม่ได้กระทำด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ไม่เข้าข่ายต้องรับผิดตามมาตรา 420 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพราะถือว่าเป็นการกระทำไปตามหน้าที่โดยสุจริต ก็ย่อมต้องได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ซึ่ง กกต.ได้มีมติให้สำนักกฎหมายและคดียกร่างหนังสือ เพื่อให้ประธาน กกต.ลงนามแจ้งให้กระทรวงการคลังทราบความเห็นของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. และหากกระทรวงการคลังมีข้อสังเกต หรือข้อทักทวงเป็นประการใดขอให้แจ้งมายังคณะกรรมการการเลือกตั้งภายใน 30 วัน ซึ่งได้แจ้งให้กระทรวงการคลังทราบแล้ว เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2552 ตามหนังสือด่วนที่สุดที่ ลต.(กกต.) 0601/5648

สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น คณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.ได้พิจารณาตามที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีคำร้องได้ขอให้กระทรวงการคลังเรียกค่าเสียหายจาก กกต.ชุดที่มี พล.ต.อ.วาสนา เป็นประธาน และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามคำร้องของหม่อมราชวงศ์ รำพิอาภา เกษมศรี หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครอง มีคำพิพากษาว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2549 ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 โดย กกต.ได้ตั้งขึ้นประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักอัยการสูงสุด กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยมีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑากา เป็นประธาน ซึ่งได้มีความเห็นว่า การจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2549 ของ กกต.ชุดพล.ต.อ.วาสนา เป็นประธาน กกต.นั้นเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่ออย่างไม่ร้ายแรง ซึ่ง กกต.ได้ส่งรายงานให้กับกระทรวงการคลังพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ที่ได้มีการทำให้เกิดความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ จึงต้องดำเนินการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดและคิดเป็นเงินของค่าเสียหาย ของ กกต.ชุดที่มี พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มภาพ เป็นประธาน

ทางกรมบัญชีกลางกระทรวงการคลัง ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อหารือแนวทางปฏิบัติกรณีคำร้องขอให้กระกระทรวงการคลังเรียกค่าเสียหายจาก กกต.และสำนักงาน กกต. ทั้งนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้มีความเห็นว่า หากความเสียหายอันเนื่องมาจากการออกคำสั่งหรือกฎ เกิดจากการจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้ออกคำสั่งหรือกฎ ก็สามารถพิจารณาหาตัวผู้ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และกระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงานด้านการเงินสามารถพิจารณารายงานการสอบสวนในเรื่องนี้ได้ ทำให้กระทรวงการคลังได้ตั้งคณะกรรมกรรมการขึ้นมาสอบอีกครั้งก็มีมติด้วยเสียงข้างมากเหมือนกับชุดของคุณหญิงจารุวรรณ และได้ส่งผลมายัง กกต.ให้พิจารณาเรียกค่าเสียหายจากการกระทำของ กกต.ชุดของ พล.ต.อ.วาสนา เป็นประธานและสำนักงาน โดย กกต.จึงได้ส่งเรื่องที่กระทรวงการคลังเรียกค่าเสียหายฯ ให้ที่ปรึกษากฎหมายได้พิจารณากรณีดังกล่าว

อนึ่ง เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2549 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2549 เป็นการจัดการเลือกตั้งที่ขัดรัฐธรรมนูญกรณีที่กำหนดวันเลือกตั้งเร็วเกินไป เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคไทยรักไทยที่เป็นรัฐบาลในขณะนั้น นอกจากนี้ยังมีการจัดคูหาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยการให้หันหลังออกด้านนอก ทำให้บุคคลอื่นสามารถมองเห็นได้ว่าผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้กาเลือกผู้สมัครหมายเลขใด รวมทั้งมีการติดรูปผู้สมัครไว้ภายในคูหาลงคะแนนด้วย

ต่อมา เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2549 ศาลอาญาได้พิพากษาจำคุก กกต. 3 คนๆ ละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ประกอบด้วย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายวีระชัย แนวบุญเนียน และนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กรณีจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.2549 โดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคไทยรักไทย ทั้งโดยการกำหนดวันเลือกตั้งเร็วเกินไป การจัดคูหาเลือกตั้งโดยมิชอบ และการช่วยเหลือพรรคไทยรักไทยในเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยลงสมัครพรรคเดียวและได้รับคะแนนไม่ถึง 20% ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยการเปิดรับสมัครใหม่และให้ผู้สมัครจากเขตอื่นที่ไม่ได้รับเลือกตั้งมาลงสมัครใหม่ได้ด้วย เพื่อให้มีผู้สมัครหลายพรรคทำให้หลีกเลี่ยงเกณฑ์ 20% ได้

ข่าวย้อนหลัง
จำคุก “3 หนา” 4 ปี ถอนสิทธิ 10 ปี ไม่รอลงอาญา (25ก.ค.2549)

ศาล รธน.มีมติ 8 ต่อ 6 ชี้เลือกตั้ง 2 เมษาฯ มิชอบ - สั่งเลือกใหม่(8พ.ค.2549)
นายปริญญา นาคฉัตรีย์ อดีต กกต.ที่ถูกจำคุกเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น