โฆษกส่วนตัวนายกฯ ปัด “บรรหาร” กดดันพรรคประชาธิปัตย์แก้รัฐธรรมนูญ ย้ำยังไม่เห็นท่าทีที่ชัดเจนว่าต้องการอะไร ระบุ มีการหารือในวง ส.ส.แก้มาตรา 237 ควรคงกฎเหล็กกรรมการบริหารพรรคทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ไม่ถึงขั้นยุบทั้งพรรค ควรมีมาตราอื่นมาควบคุมการซื้อเสียง หวั่นหนีไม่พ้นวัฏจักรอุบาทว์ซื้อเสียง
วันนี้ (5 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกระแสข่าว ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อึดอัดต่อท่าทีของ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้เห็นท่าทีของนายบรรหาร จึงไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครแสดงความอึดอัดตามที่เป็นข่าว หากจะมีก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะวันนี้พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.172 คน อาจมีใครคนใดที่บ่นขึ้นมาก็เป็นได้ แต่โดยภาพรวมยังไม่มีและไม่เคยมีการนำเรื่องนี้มาพูดคุยในพรรคแต่ประการใด
นายเทพไท กล่าวต่อว่า การแก้รัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการส่วนมาตรา 237 ที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคนั้น พรรคก็ยังไม่มีการพูดคุย มีเพียงคุยกันในส.ส.บางส่วนว่าหากจะมีการแก้มาตรา 237 จริง เราจะใช้กฎหมายมาควบคุมการซื้อเสียง และการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะมาตรา 237 อาจจะมีโทษหนักเกินไป แต่เมื่อพรรคการเมืองทำผิด ในฐานะที่พรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมือง และเป็นสมบัติของสมาชิกพรรค การยุบพรรคอาจจะกระทบต่อมวลสมาชิกเป็นอย่างมาก แต่คนที่หนีความรับผิดชอบไม่พ้น ก็คือ หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ที่จะต้องรับผิดชอบ และการกระทำผิดของคณะกรรมการบริหารพรรค น่าจะมีบทลงโทษกว่าสมาชิกธรรมดา ดังนั้น ถ้ามีกรรมการบริหารพรรคคนใดทำผิดก็น่าที่จะให้กรรมการบริหารพรรครับผิดชอบทั้งชุด ไม่จำเป็นต้องยุบพรรค อย่างไรก็ตามทุกคนเห็นว่าแม้จะแก้มาตรา 237 จะต้องมีมาตราอื่นขึ้นมา เพื่อควบคุมการทุจริตเลือกตั้งและการซื้อเสียง ไม่เช่นนั้นจะหนีวัฏจักรการซื้อเสียงและทุจริตการเลือกตั้งจนเข้าไปสู่วงจรอุบาทว์ไม่พ้น