รมต.สำนักนายกฯ เจ้าเก่า กรีดกรายปั๊มซีดี 1 ล้านแผ่นแจก ปชช.แก้ลำถ่อยแดงไม่แล้วเสร็จ ทหารสุดทนส่งกำลังพล 4,000 นายปูพรมลงพื้นที่แจงชาวบ้านแทน ปฏิเสธรัฐบาลสองมาตรฐาน ชี้ดีสเตชั่นจอดำเป็นเรื่องของ กทช.
วันนี้ (30 เม.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กอ.รมน.จะส่งทหาร 4,000 นายลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการมองว่าจะมีการลงไปล้างสมองรวมทั้งปูพื้นเตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้าให้ฝ่ายการเมือง นายสาทิตย์กล่าวว่า ในส่วนของฝ่ายทหารเข้าใจว่าเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมที่ผ่านมาซึ่งแกนนำกลุ่มเสื้อแดงได้พยายามกล่าวหาทหารตลอดเวลาว่าทหารฆ่าประชาชน และทางเราก็ได้เห็นวีซีดีที่มีการจัดทำขึ้น และมีข้อความว่าทหารฆ่าประชาชน เมื่อดูเนื้อหาแล้วก็มีสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงจึงทำให้ทหารถูกเข้าใจผิด ทหารเองก็มีกำลังพลอยู่ทั่วประเทศนับแสนนายจึงได้รับความกระทบกระเทือนทั้งหมด เขาจึงน่าจะได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการชี้แจงข้อเท็จจริงจะเรียกว่าการล้างสมองหรือไม่ก็คงขึ้นอยู่กับเนื้อหา แต่ตนเชื่อว่าคนที่รับฟังก็คงจะมีวิจารณญาณ
เมื่อถามว่าซีดีทีมีการแจกจ่ายทำไปแล้วแค่ไหน นายสาทิตย์กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการปั๊มแผ่นซีดีอยู่ แผ่นนี้ใช้ชื่อว่า “รวมพลังคนไทย ก้าวข้ามสงครามกลางเมือง” เนื้อหาจะมีความยาว 17 นาที โดยจะเล่าถึงจุดยืนของรัฐบาลต่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ว่ารัฐบาลมีจุดยืนที่ยอมรับการชุมนุมที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และในที่สุดจุดยืนของการชุมนุมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และวีธีการจัดการของรัฐบาลเป็นอย่างไร โดยจะมุ่งเน้นที่ข้อเท็จจริง และมุ่งการรวมพลังคนไทยเพื่อก้าวข้ามสงครามกลางเมืองนี้ไป
ผู้สื่อถามถามว่า คงหนีไม่พ้นการวิจารณ์ฝ่ายไหนเป็นคนจัดการก็ต้องยกตัวว่าทำดี นายสาทิตย์กล่าวว่า เมื่อทำขึ้นมาแล้วประชาชนซึ่งอยู่ตรงกลาง เขาก็จะได้รู้ข้อมูลทั้งสองด้าน มีจุดมุ่งหมายจะทำให้ถึงล้านแผ่นขึ้นอยู่กับกำลังเงิน เบื้องต้นจะขอความร่วมมือแพร่ออกอากาศ โดยให้แต่ละสถานีจัดเวลาออกอากาศตามทำเหมาะสม
เมื่อถามว่าการที่ทหารดำเนินการเองรัฐบาลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ในการลงไปชี้แจงในพื้นที่ นายสาทิตย์กล่าวว่า เป็นการดำเนินการทางทหารเอง โดยเขามีพื้นที่ที่จะเข้าไปชี้แจงและการชี้แจงครั้งนี้เป็นผลกระทบจากที่เขาถูกกล่าวหาในช่วงสถานการณ์และการกล่าวหาดำเนินต่อมาไม่หยุดยั้ง ซึ่งมีความพยายามจะกล่าวหาตลอดเวลาเรื่องการฆ่าประชาชนและการชุมนุมก็มีเป้าหมายเชื่อมโยงกับทาง ส.ส.พรรคเพื่อไทยในสภาด้วย ดังนั้น การชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ความจริงทั้ง 2 ด้าน
นายสาทิตย์ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ตนทำเว็บไซต์เพิ่มเติมในนามของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเป็นตัวหลักในการรวมรวมข้อมูลและตัวเว็บไซต์คณะนี้ออกแบบเสร็จแล้วภายในวันสองนี้จะนำมาเผยแพร่ได้ ใช้ชื่อว่า www.factreport.go.th จะเปิดตัวเว็บไซต์ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2552 มีการลงข้อมูลข่าวสารให้เห็นชัดเจนครบถ้วน ประเด็นที่จะลงจะมีเอกสารที่เกี่ยวกับการสรุปรวบรวมเหตุการณ์และคลิปภาพต่างๆ ที่จะลงให้เห็นว่าสภาพเหตุการณ์ที่มีข้อถกเถียงหรือเหตุการณ์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบสันติไม่มีอาวุธ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไม่กองทัพไม่ใช้สื่อวิทยุที่มีเป็นร้อยสถานีชี้แจงแทนการส่งกำลังพลลงพื้นที่ซึ่งเป็นรูปแบบเก่าที่คนไม่ใว้วางใจ นายสาทิตย์กล่าวว่า เข้าใจว่าทางทหารคงใช้สื่อของเขาเองด้วย คิดว่าเขาต้องทำหลายอย่างประสานกันและในส่วนของสื่อเองทางทหารก็มีการปรับเนื้อหาการเสนอข้อมูลข่าวสาร ทั้งในวิทยุร้อยคลื่นและทางโทรทัศน์ช่อง 5 ด้วย ส่วนที่ว่าทหารลงไปเพื่อสกัดกั้นฝ่ายตรงข้ามในพื้นที่ด้วยหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่ได้ทราบว่าเขาจะทำเช่นนั้นทราบแต่ว่าจะเป็นการส่งคนลงไปเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องยอมรับว่าการกล่าวหาทหารฝ่ายเขามีการทำหลายอย่าง เพราะแกนนำเสื้อแดงประกาศว่า จะเล่นเกมใต้ดินก็คงจะมีการทำหลายอย่าง เท่าที่เราทราบวิธีการของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่นิยมความรุนแรงจะใช้วิธีไปกระซิบข้างหู เป็นการบอกเล่าข่าวลือ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่อันตรายหากไม่มีการชี้แจง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางรัฐบาลไม่ได้ถามถึงแนวทางที่ กอ.รมน.จะลงไปทำหรือไม่ นายสาทิตย์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเป็นการเฉพาะ ยังไม่มีการซักถามอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แต่เป็นการรับทราบหลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจลว่าเขาได้พยายามหาทางจะชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนการหวาดระแวงเจ้าหน้าที่ที่จะลงไปในพื้นที่นั้น การลงพื้นที่ก็จะมีสื่อมวลชนอยู่ด้วย จึงเชื่อว่าหากไปทำอะไรคงปกปิดไม่ได้ และคนที่เข้าไปฟังก็เป็นผู้นำท้องถิ่นผู้นำชาวบ้านต่างก็มีวิจารณญาณทั้งนั้น จึงคิดว่าอย่าไประแวงเรื่องที่เขาจะชี้แจง ด้วยสังคมนี้ต้องการข้อมูลรอบด้าน
นายสาทิตย์ยังกล่าวต่ออีกว่า ครั้งแรกที่ระแวงเรื่อง กอ.รมน.ใช้งบ 1 พันล้าน ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงกับการเทิดทูนสถาบันก็เป็นสิ่งที่ตรวจสอบได้ ในสิ่งที่กล่าวหา ซึ่งการกล่าวหาส่วนหนึ่งก็นำไปสู่การตรวจสอบการทำงานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มเสื้อแดงต้องการให้คืนอุปกรณ์ของดีสเตชั่น นายสาทิตย์กล่าวว่า ไม่ต้องขอคืนเพราะรัฐบาลไม่ได้เก็บไปไหน การดำเนินการปิดวิทยุชุมนุม และดีทีวีเป็นรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจและ กทช.ที่เข้าไปดำเนินการ การเข้าไปดำเนินการนี้ในสองส่วนคือการใช้ พรบ.วิทยุโทรคมนาคม ปี 2498 คือการครอบครองและตั้งสถานีวิทยุโทรทัศน์โดยมิชอบกับการใช้กฏหมายอาญามาตรา มาตรา 116 ที่มีการกระทำการปลุกปั่นให้ความปั่นป่วนยุยงให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเท่าที่ทราบการดำเนินการยังอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ ซึ่งหากฝ่ายเสื้อแดงจะเปิดอีกก็เปิดได้ด้วยการไปขออุนุญาตจาก กทช.เวลานี้ระเบียบเขาก็เสร็จแล้ว
ส่วนกรณีเสื้อแดงขู่ว่าจะไปยื่นขอให้ศาลคุ้มครองแบบที่อีฝ่ายหนึ่งทำ นายสาทิตย์กล่าวว่า เขาก็ขอได้แต่ไม่รู้ว่าจะขอตรงไหนเพราะกรณีมันต่างกับเอเอสทีวี ซึ่งตอนนั้นเอเอสทีวีเป็นสถานีดาวเทียวที่ส่งสัญญาญผ่านทาง รีสไลน์ ไปยัง กสท และรัฐบาลยุคนั้นได้บล็อกสัญาญไม่ให้ผ่าน กสท เขาจึงไปร้อง กสท ให้ส่งสัญาญผ่าน กสท แต่กรณีของดีทีวีเป็นคนละกรณี ทางดีทีวีอัพลิ้งค์สัญญาณผ่านทางดาวเทียมไทยคมและตั้งสถานีอยู่ที่ห้างอิมพิเรียลลาดพร้าว หากจะไปร้องศาลไปร้องได้แต่ต้องดูว่าประเด็นใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งสองฝ่ายทำการปลุกระดมเหมือนกันทำไมจึงไม่จัดการ นายสาทิตย์กล่าวว่า เรื่องก็ยังแตกต่างกันและเป็นช่วงเวลาคนละช่วง ช่วงของเอเอสทีวีรัฐบาลยุคนั้นก็ดำเนินการไป ช่วงดีทีวีเป็นรัฐบาลชุดนี้เราก็ดำเนินการในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
เมื่อถามว่า คำกล่าวหาว่ารัฐบาลมีสองมาตรฐานจะแก้ไขภาพตรงนี้ได้อย่างไร นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลสามารถชี้แจงทุกเรื่องว่าไม่มีสองมาตรฐาน มีมาตรฐานเดียว เรื่องข้อกล่าวหาเป็นข้อกล่าวหาที่พยายามหยิมยกเหตุการณ์คนละช่วงรัฐบาลมาเปรียบเทียบกัน อย่างกรณีเอเอสทีวีกับดีทีวี มันคนรัฐบาลกันเลย ยุคเอเอสทีวีเป็นยุครัฐบาลนายสมัคร และนายสมชาย แต่ยุคดีทีวีเป็นยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ การดำเนินการทางกฎหมายก็ใช้กฎหมายตัวเดียวกันและวีธีดำเนินการก็เป็นวิธีที่เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ