xs
xsm
sm
md
lg

นปช.ทวงคืน “ดี-สเตชั่น” หวัง “ปลุกผี”เสื้อแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวของ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ที่พยายามใช้ฤกษ์ยาม อันเป็นสัญลักษณ์การเมืองเพื่ออ้างความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวนัดชุมนุมใหญ่

ประกาศนัดรวมพล “คนเสื้อแดง”อีกครั้งใน วันที่ 17 พฤษภาคม 2552 นี้ที่ท้องสนามหลวง

อันเป็น 17 พฤษภาฯที่เวียนมาบรรจบอีกปีหนึ่งของการเรียกร้องประชาธิปไตยบนท้องถนนราชดำเนิน ในเหตุการณ์พฤษภา 2535 ขับไล่เผด็จการ รสช. ซึ่งเป็นการต่อสู้ทางการเมืองของประชาชนชาวไทยที่เอาชนะเผด็จการทหารครั้งยิ่งใหญ่

แน่นอนว่า เสื้อแดง รวมถึงทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมหวังใช้วันดังกล่าว รวมพลใหญ่แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายและคงไม่มีการประกาศ

แตกหัก กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เหมือนกับการประกาศแตกหักเมื่อ 8 เมษายน 2552 ก่อนจะมาทะลุจุดเดือดในวันที่ 13 เมษายน

แต่น่าจะเป็นการวัดกำลังครั้งใหญ่ของคนเสื้อแดง เพื่อเขย่าขวัญรัฐบาล-กองทัพ-ตำรวจกันอีกคำรบ ในยามที่ไม่มี พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการควบคุมการชุมนุม

ต้องรอดูว่าสุดท้าย “เสื้อแดง” จะเคลื่อนไหวอย่างไรในวันดังกล่าว แต่เชื่อได้ว่า คงถือเอามนต์ขลังวันรำลึกวีรชนเดือนพฤษภาฯ อ้างการทวงคืนประชาธิปไตยให้กับคนเสื้อแดงในบริบทเดิมๆ ที่คนส่วนใหญ่ก็เห็นอยู่แล้วว่าประเทศยามนี้ก็มีประชาธิปไตยเต็มใบอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นอย่างที่เสื้อแดงพยายามปลุกปั่นยุยง

และคนส่วนใหญ่ก็รู้ด้วยว่าการต่อสู้เมื่อพฤษภา 35 ผู้นำและผู้เข้าร่วมชุมนุมยอมสละเลือดชีวิตเพื่อแลกกับประชาธิปไตยที่แท้จริง อันแตกต่างจากการเคลื่อนไหวเสื้อแดงในยามที่ผ่านมา ที่ยังไม่สามารถทำให้คนหมู่มากเชื่อได้ว่า

ไม่ได้ทำเพื่อทักษิณ ชินวัตร และผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช.บางคน

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้รับทราบมาว่า ก่อนจะไปถึงวันที่ 17 พ.ค.52 การเคลื่อนไหวทั้งแบบบนดินและใต้ดินของเสื้อแดง จะเริ่มแบบกองทัพมดไปเรื่อยๆ และเป้าหมายของแต่ละพื้นที่แต่ละกลุ่มจะแตกต่างกันออกไปก่อน

เช่นในบางจังหวัด อย่าง จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.อุดรธานี และ จ.นนทบุรี พบว่าเครือข่ายเสื้อแดง มุ่งเน้นการให้สามารถจัดรายการ “วิทยุชุมชน”ในพื้นที่ให้ได้ก่อน หลังจากก่อนหน้านี้ถูกทางจังหวัดและตำรวจบุกสถานีวิทยุชุมชนแล้วยึดเครื่องส่งออกอากาศไป จนทำให้ต้องมีการเตรียมฟ้องศาลปกครองเพื่อขอคืนอุปกรณ์การทำวิทยุ

เพราะหากไม่มีเครื่องมือหากิน แกนนำเสื้อแดงเหล่านี้ที่ใช้เครือข่ายวิทยุชุมชนเป็นอาวุธหลักในการระดมคนไปนัดชุมนุมตามจุดต่างๆเช่นศาลากลางจังหวัด ถนนสายหลักในจังหวัด ก่อนจะยกพวกเข้ากรุงเทพฯก็จะไม่สามารถระดมคนเสื้อแดงมาได้มากเหมือนเดิม

ทำให้ขาดอำนาจการต่อรองกับแกนนำเสื้อแดงในส่วนกลาง รวมถึง ส.ส.เพื่อไทยในพื้นที่

นอกจากนี้ หลายจังหวัด แกนนำเสื้อแดงที่ไม่ได้ถูกดำเนินคดีในช่วงที่ผ่านมา ก็เริ่มมีการนัดพบกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ตามสถานที่ต่างๆ ในลักษณะการสนทนาการเมืองแบบไม่เป็นทางการผ่านร้านกาแฟในหมู่บ้าน งานสังคมในพื้นที่ เพื่อวัดขุมกำลัง และพยายามเคลื่อนไหวเล็กๆในพื้นที่เลี้ยงคนของตัวเองไว้ก่อน

อันมีตัวอย่างให้เห็นหลายแห่งเช่นที่ จ.ยโสธร ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แกนนำเสื้อแดงในจังหวัดได้นำคนไปหวังปิดล้อมถนนบริเวณที่อิสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมฯจากพรรคประชาธิปัตย์ขับผ่านขณะออกตรวจราชการเพื่อสร้างแรงกดดัน แต่ไม่สำเร็จเพราะตำรวจเคลียร์พื้นที่ไว้ได้ก่อน

ทุกความเคลื่อนไหวเช่นนี้ ได้ถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงแบบเกาะติดมากกว่าเดิมแน่นอน หลังจากมีบทเรียนมาแล้วครั้งที่ผ่านมาซึ่งประมาทคนเสื้อแดงมากเกินไป รวมถึงถูก

“วางยา”

จากข้าราชการหลายส่วนทั่วประเทศ ที่ประเมินและรายงานการเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงเข้าไปยังส่วนกลางผิดพลาด ทำให้รัฐบาลตั้งรับไม่ทัน แต่ครั้งนี้ เพียงแค่เริ่มขยับ ก็พบว่ารัฐบาลเริ่มตั้งรับแล้ว

ไล่ตั้งแต่การเตรียมสู้ในแง่ข้อกฎหมาย และข้ออ้างเรื่องความมั่นคงกรณีที่เสื้อแดง กำลังทำทุกวิธีทางเพื่อทวงคืน

ดี-สเตชั่น

ที่ทักษิณลงทุนไปหลายร้อยล้านบาทกลับมาให้ได้ หลังจาก “จอดำ”ไปร่วมสองสัปดาห์ เพราะทักษิณ-เสื้อแดง-เพื่อไทย รู้ดีว่าหากไม่มี ดี-สเตชั่น และเครือข่ายวิทยุชุมชนทั่วประเทศ ที่ยิงสัญญาณการเคลื่อนไหวจาก ดี-สเตชั่น มันก็เหมือนกับการออกรบที่ขาดอาวุธสำคัญ

เพราะมวลชนที่จะมาร่วมชุมนุม หรือได้ยินได้ฟังการปราศรัย ได้รับรู้การเคลื่อนไหว ก็จะอยู่แค่กับคนที่มาร่วมชุมนุมไม่กี่ร้อยกี่พันคน ซึ่งไม่สามารถทำให้เกิดผลสะเทือนทางการเมืองได้ ครั้นจะคิดหวังพึ่งสื่อทีวี วิทยุ ก็ล้วนเป็นของรัฐและส่วนใหญ่ก็รู้เท่าทันคนเสื้อแดงและทักษิณอยู่แล้ว จึงไม่มีใครยอมตกเป็นเครื่องมือของคนเสื้อแดงให้ใช้สื่อมาปลุกระดม และทำลายชาติบ้านเมือง

ทำให้การนัดชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สนามหลวงเมื่อวันเสาร์ที่ 25 เมษายนที่ผ่านมาล่มไม่เป็นท่า เมื่อขาดสื่อทีวีและวิทยุ

การชุมนุมในวันนั้น มีแกนนำเสื้อแดงนำโดยจรัล ดิษฐาอภิชัยและสมยศ พฤกษาเกษมสุข สองแกนนำ นปช.ที่ต้องขึ้นมารับบทนำแทนในยามที่แกนนำรุ่นฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย อย่างวีระ มุกสิกพงษ์-ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ-เหวง โตจิราการ มีชนักติดหลังอยู่ทำให้เคลื่อนไหวได้ลำบาก เพราะอาจถูกศาลถอนประกัน

ส่วน จตุพร พรหมพันธุ์ และ จักรภพ เพ็ญแข ที่แตกคอกับสามแกนนำข้างต้น ก็กำลังลำบากเพราะถูกด่าหนักว่า “ทิ้งมวลชน” แถมไม่พอรายของจักรภพ นั้นดูท่าทางแล้ว คงไม่กลับมาสู้คดีในประเทศไทยตอนนี้แน่นอน จึงทำให้เสื้อแดงขาดผู้นำ

ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่ไม่ดุดันเหมือนเดิม

เนื้อหาหลักบนเวทีเสื้อแดงเมื่อวันเสาร์ที่สนามหลวง แกนนำและผู้ปราศรัยส่วนใหญ่จะเน้นการ ประเด็นข้อเรียกร้องหลักข้อหนึ่งคือ

“ทวงคืนดี-สเตชั่น”

หาใช่ทวงคืนประชาธิปไตย และโค่นล้มอำมาตยาธิปไตยเหมือนเช่นก่อนหน้านี้!

เรื่องนี้ คงต้องรอดูว่าทางรัฐบาลจะเอาอย่างไร หากโดนคนเสื้อแดงรุกหนัก เพราะมีข่าวว่าแกนนำเสื้อแดงกำลังพิจารณาข้อกฎหมายหลายฉบับ เพื่อทำให้มีการเปิดดี-สเตชั่นให้ได้ ทั้งการยื่นฟ้องศาลปกครอง หรือกดดันผ่านพรรคเพื่อไทยในสภาฯ เช่นตั้งกระทู้สดถามกลางสภาฯ

โดยอ้างเรื่อง “สองมาตรฐาน”กับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นมาเป็นข้อเรียกร้องเหมือนเช่นเดิม ทั้งที่คนส่วนใหญ่ก็เห็นแล้วว่า กรณีของดี-สเตชั่นนั้นแตกต่างอย่างชัดเจนกับสถานีทั่วไป

เพราะนอกจากใช้เป็นการปลุกระดมแล้ว ยังทำตัวเป็นเครื่องมือให้กับทักษิณในการพูดจาพาดพิงสถาบันโดยมิควร

อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไป ว่าหากท้ายสุดเสื้อแดงไม่ได้ดี-สเตชั่นกลับคืน จะมีการปรับการเคลื่อนไหวอย่างไร เพราะบางคนก็ให้ข้อคิดว่า การที่มีดี-สเตชั่น อย่างน้อยก็ดีไปอย่างคือทำให้ทุกฝ่ายเห็นความเคลื่อนไหวของเสื้อแดงได้สะดวก เพราะเป็นการเคลื่อนไหวแบบ “บนดิน”

อย่างน้อยก็จะได้รับรู้ว่าแกนนำแต่ละคนคิดอย่างไร ทำอะไร ทักษิณวางแผนอย่างไร และหากทำไม่ดีทำอะไรผิดกฎหมาย ก็จะได้ใช้เทปที่ออกทางดี-สเตชั่นเป็นหลักฐานเอาผิดได้

แต่หากให้เสื้อแดง เคลื่อนไหว “ใต้ดิน”ทั้งหมด โดยไม่รู้เลยว่า เคลื่อนไหวอย่างไร อย่างนี้สิอันตรายยิ่งกว่า!

กำลังโหลดความคิดเห็น