“เสธ.แดง” หลุดปาก “นักรบโรนิน” ยิงระเบิดถล่มพันธมิตรฯ ในทำเนียบ พร้อมโอ่ผลงานโบดำช่วยม็อบหางแดงยิงชาวบ้านนางเลิ้งดับ 2 ศพ อ้างเป็นคนของนักการเมืองเสื้อน้ำเงิน ไล่ยิงเสื้อแดงก่อน
เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันที่ 24 เม.ย.ระหว่างที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แถลงข่าวที่กองบัญชาการกองทัพบก เกี่ยวกับกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ตอนหนึ่งของการแถลงข่าว พล.ต.ขัตติยะ ได้พูดถึงมือปืนที่ยิงนายสนธิ ว่า ไม่ใช่มืออาชีพ และได้หลุดปากออกมาว่า ไม่ใช่นักรบโรนินชุดที่ยิงทำเนียบรัฐบาล และชุดที่ยิงคนเสียชีวิต 2 คนที่ชุมชนนางเลิ้งเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา
“โชคดีที่วันนั้นไม่ใช่นักรบโรนินยิง ไม่ใช่นักรบโรนินชุดที่ยิงทำเนียบรัฐบาล กับชุดที่ไปช่วยสีแดงยิงคนของนักการเมืองที่ไปไล่ยิงม็อบสีแดงคืนวันที่ 13 ที่ตาย 2 คน ไม่ใช่คนนางเลิ้ง เป็นพวกม็อบสีน้ำเงิน ที่ถูกยิงตาย ไม่มีสีแดงถูกยิงตายซักคนหนึ่ง ผมยืนยัน ทหารนี่ยิงโดนบ้างไม่โดนบ้าง ยิงขึ้นฟ้า แต่มันดวงแข็ง ทหารก็ไม่มีใครตาย” พล.ต.ขัตติยะ กล่าว
สำหรับนักรบโรนิน เดิมคือ “กลุ่มนักรบพระเจ้าตาก” ที่ พล.ต.ขัตติยะ ฝึกอยู่ที่สนามหลวง เพื่อเตรียมไว้โจมตีพันธมิตรฯ ที่เข้าไปชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี 2551 มีกำลังทั้งสิ้นประมาณ 50 คน ซึ่งในเวลาต่อมา พล.ต.ขัตติยะ อ้างว่า ได้สลายกองกำลังดังกล่าวไปแล้ว และถือว่านักรบเหล่านี้เป็นอิสระ สามารถออกปฏิบัติการที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เหมือนพวกซามูไรไร้สังกัด ที่เรียกว่า โรนิน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่พันธมิตรฯ ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลนั้น เมื่อ พล.ต.ขัตติยะ ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าจะมีการยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ก็มีการยิงเข้าไปตามที่ พล.ต.ขัตติยะให้สัมภาษณ์ตลอด จนมีผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และภายหลังจากพันธมิตรฯ เลิกการชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลแล้ว พล.ต.ขัตติยะ พร้อมกับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งได้เข้าไปยืนถ่ายรูปตามจุดที่มีการยิงระเบิดด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่เคยให้ความสนใจที่จะสืบสวนในประเด็นดังกล่าว โดย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.เคยให้สัมภาษณ์ว่า ได้เรียก พล.ต.ขัตติยะ ไปสอบถามแล้ว แต่ พล.ต.ขัตติยะ ไม่ไป และได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ซึ่งตำรวจก็หยุดอยู่แค่นั้น
สำหรับการให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ขัตติยะ ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ซึ่ง พล.ต.ขัตติยะยอมรับว่า รักรบโรนินเป็นคนยิงระเบิดเข้าไปในทำเนียบนั้น จึงเป็นประเด็นที่น่าติดตามว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียก พล.ต.ขัตติยะไปสอบสวนเรื่องนี้หรือไม่ หรือจะปล่อยให้พันธมิตรฯ ต้องบาดเจ็บล้มตายไปฟรีๆ
นอกจากนี้ จะเห็นว่า จากคำให้สัมภาษณ์ พล.ต.ขัตติยะ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ได้อ้างถึงเหตุการณ์ที่ชาวชุมชนนางเลิ้งถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการก่อจลาจลของม็อบเสื้อแดงเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ด้วย ว่า นักรบโรนินเป็นคนยิง แต่อ้างว่าคนที่ถูกยิงนั้นเป็นคนของนักการเมืองในกลุ่มเสื้อสีน้ำเงินได้ไล่ยิงคนเสื้อแดงก่อน นักรบโรนินจึงไปช่วยและยิงคนของนักการเมืองตายไป 2 คน
อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริง ปรากฏว่า คนที่ถูกยิงคือนายป้อม ผลพันพัว อายุ 54 ปี มีอาชีพรับเช่าพระและเพาะลูกปลาขาย อีกคนคือนายยุทธการ ต้อยช้อยชด อายุ 19 ปี มีอาชีพเป็นพนักงานรับส่งเอกสารและมีมารดาเป็นพนักงานโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งมีฐานะยากจน
และเช่นเดียวกัน จากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.ขัตติยะในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสนใจจะติดตามสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะนอกจากจะให้สัมภาษณ์แล้ว พล.ต.ขัตติยะยังเขียนเรื่องการยิงชาวบ้านนางเลิ้งที่เขาอ้างว่าเป็นคนเสื้อน้ำเงิน ไว้ในเว็บไซต์ส่วนตัวด้วย
