xs
xsm
sm
md
lg

คณะอะมีรุลฮัจย์เข้าพบนายกฯ นำเสนอผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในฤดูฮัจญ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อะมีรุลฮัจย์ และคณะ เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำเสนอผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาติในฤดูกาลฮัจญ์

วันนี้ (24 เม.ย.) เวลา 11.17 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อะมีรุลฮัจย์ และคณะ เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาติในฤดูกาลฮัจญ์ สรุปสาระสำคัญในเนื้อหา คือ การประกอบพิธีฮัจญ์จะมีผลประโผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจที่แฝงอยู่ท่ามกลางความพากเพียรในการปฏิบัติพิธีกรรมฮัจญ์ (อันเป็นเป้าหมายหลักของการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของชาวมุสลิม) มีมากมายมหาศาล ไม่ว่าในระดับบุคคล ครอบครัว สังคม องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ประเทศชาติหรือนานาชาติ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันระดับสากลในรูปแบบของอุตสาหกรรมทางธุรกิจ การทำความรู้จัก การช่วยเหลือเกื้อกูล การสร้างเครือข่ายทำงานด้านสาธารณกุศลสากล และการจัดประชุมสัมมนานานาชาติ
 

ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า ผู้ประกอบพิธีฮัจญ์เปรียบเสมือนทูตสันถวไมตรีที่เป็นตัวแทนอย่างไม่เป็นทางการของรัฐบาลในการนำเสนอภาพลักษณ์อันดีงามของประเทศสู่พี่น้องมุสลิมทั่วโลก ทั้งด้านวัฒนธรรม จริยธรรม และเศรษฐกิจ ซึ่งหากรัฐบาลรู้จักใช้โอกาสนี้แล้ว ไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันดีงามในเวทีสากลและความร่วมมือในระดับต่างๆ เท่านั้น หากยังเป็นการประชาสัมพันธ์ด้านธุรกิจการท่องเที่ยวและการลงทุนอันมากมายมหาศาลที่ไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเลขได้
 

ประมาณการว่า หากผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ต้องเสียค่าใช้จ่ายขั้นต่ำสำหรับกระบวนการทำฮัจญ์ในทุกขั้นตอนประมาณ 1.5 แสนบาทต่อคนแล้ว เฉพาะประเทศไทยในปี 2552 นี้ หากผู้มีสิทธิ์ประกอบพิธีฮัจญ์ 15,000 คน นั่นหมายถึงเม็ดเงินจำนวน 2 พันกว่าล้านบาทได้เดินสะพัดหมุนเวียนเข้าไปในวงการธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกประเภท ซึ่งยังไม่นับรวมประชาชาติมุสลิมทั่วทุกสารทิศอีกจำนวนนับล้านคนที่เข้าร่วมในมหกรรมสัมมนานานาชาติประจำปีของมนุษยชาตินี้ ดังนั้น หากรัฐตระหนักถึงความสำคัญของกิจการฮัจญ์โดยไม่ได้มองเพียงแค่เป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่เกี่ยวข้องเฉพาะผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์เท่านั้น หากแต่ว่ามีการกำหนดทิศทางการพัฒนาและยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แน่นอนที่สุดฤดูกาลฮัจญ์จะกลายเป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจประจำปี อีกทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับประชาชาติเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น