“สุริยะใส” เชื่อถูกตั้งค่าหัว 3 ล้าน แค่ข่มขวัญ ลั่นไม่หวั่นไหวเพราะระวังตัวตลอดเวลา ฟันธงประเด็นการเมืองทำ “สนธิ” ถูกลอบสังหาร ชี้รัฐบาลเปลี่ยนตัว “ธานี” สางคดีแทน “จงรัก” ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี มั่นใจหากลากคอคนร้ายมาลงโทษได้เร็วที่สุด จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ปชช.
วันนี้ (19 เม.ย.) น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก ผู้ดำเนินรายการ “จับตา(ย) การเมืองเก่า เกาเหลาการเมืองใหม่” เวลา 21.30-22.00 น.ได้สัมภาษณ์ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถึงกระแสข่าวการตั้งค่าหัว “2 ส.พันธมิตรฯ” หัวละ 3 ล้านบาท ว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของแกนนำพันธมิตรฯ ทุกรุ่น หรือแม้แต่ น.ส.อัญชะลี เองก็ตาม อาจถูกปองร้ายได้ตลอดเวลา
“สถานการณ์ตอนนี้ เกมอำนาจซับซ้อนมากยิ่งขึ้น แต่เรายังไม่ปักใจเชื่อว่าการลงมือลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ นั้น เป็นฝีมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเราจะรอดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนว่าจะสรุปคดีไปในทิศทางใด ส่วนกระแสข่าวเรื่องค่าหัว 3 ล้านบาทนั้น ผมคิดว่าเป็นการข่มขวัญ ซึ่งผมก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร แต่เราก็ต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน เพราะสถานการณ์ค่อนข้างแหลมคม ซึ่งอาจเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา” นายสุริยะใส กล่าว
ส่วนกรณีที่ เสนาธิการทหารคนหนึ่ง ซึ่งออกมาระบุว่าการลอบสังหารนายสนธินั้นเกิดจากกฐินสามัคคีนั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า จริงๆ แล้วก็รู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าทุกๆ คนต้องมีคนรัก และคนไม่รักเป็นธรรมดา ซึ่งขึ้นกับความสำคัญในบทบาทของแต่ละคน เช่น กรณีของนายสนธินั้น เป็นบุคคลที่มีบทบาทสูงทางการเมือง และมีความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ฉะนั้น ประเด็นหลักที่จะขุดคุ้ยเรื่องการลอบสังหารนั้นจึงไม่ควรแตกไปเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องการเกลียดชัง หรือเรื่องการฉวยโอกาสเพื่อสร้างสถานการณ์
“แต่ประเด็นหลัก คือ ในขณะนั้นคนที่ถูกลอบสังหารกำลังทำอะไรอยู่ โดยจะเห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของดุสิตโพล ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เห็นตรงกันว่าการลอบนายสังหารนายสนธินั้นเกิดจากปัญหาทางการเมือง แต่ปัญหาที่แท้จริงคือบทบาทที่นายสนธิลุกขึ้นมาตรวจสอบ และลุกขึ้นมาต่อต้านความไม่ชอบธรรมของนักการเมือง โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าว
นายสุริยะใสยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ออกมาวิงวอนไม่ให้พันธมิตรฯ เคลื่อนไหว โดยยืนยันว่าจะเร่งคลี่คลายคดีที่นายสนธิโดนลอบยิงอย่างตรงไปตรงมาว่า โดนส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ว่านายกฯ ขอแล้วเราจะให้ แต่ในความเป็นจริงแล้วพันธมิตรฯ อยู่ในที่ตั้งก่อนที่กลุ่มเสื้อแดงจะนัดดีเดย์ด้วยซ้ำไป และถ้ามองในลักษณะที่ให้ความเป็นธรรมต่อนายกฯ แล้วก็จะเห็นว่าในวันนี้มีสัญญาณดีๆ ออกมา คือ กรณีที่มีการเปลี่ยนตัวทีมดูแลคดีความ และนครบาล จาก พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ไปให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ดูแลแทน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างที่จะมั่นใจการทำงานของ พล.ต.อ.ธานี
“คงต้องให้นายกฯ ปรับตัวในระดับหนึ่ง เพราะคดีลอบสังหารนายสนธินั้น ผมคิดว่าคงไม่น่าที่จะใช้เวลาคลี่คลายคดีนานเท่าใดนัก เพราะมีการส่งสัญญาณออกมาจากทางนครบาลอย่างชัดเจนว่าจะสามารถจับตัวคนผิดได้ในเร็วๆ นี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าทางรัฐบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบจะจริงจัง และจริงใจแค่ไหน หรือว่าจะถ่วงเวลา ซึ่งก็คงต้องติดตามกันอีกครั้งหนึ่ง” นายสุริยะใส กล่าว
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า หากยังไม่มีความคืบหน้ากรณีการจับตัวคนร้ายที่ลอบสังหารนายสนธิ อย่างช้าที่สุดภายในเดือน เม.ย.นี้ ผมคาดว่าพันธมิตรฯ คงจะมีมาตรการที่ชัดเจนออกมาว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่คงไม่ไปตั้งกรอบเวลา 5 วัน 7 วัน แต่ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดก็จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล และตัวนายกฯ เอง เพราะถ้าจัดการได้เร็ว ประชาชนก็จะรู้สึกมั่นใจในรัฐบาล และรู้สึกปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของเขาเอง