ตาก-นักธุรกิจแม่สอด ชี้ฝ่ายความมั่นคงควรเพิ่มมาตรการ รปภ.คนสำคัญให้เข้มงวด เชื่อเหตุลอบสังหารคนสำคัญมีสิทธิ์เกิดขึ้นอีกแน่ จี้ฝ่ายความมั่นคงสนองนโยบายรัฐเต็มที่ ย้ำ “มาร์ค”ต้องสั่งการอย่างเข้มข้นมากขึ้น
นายสุชาติ ตรีรัตน์วัฒนา ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก และนักธุรกิจรายใหญ่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมืองในขณะนี้ ว่า รัฐบาลควรให้หน่วยงานด้านความมั่นคง(ทหาร-ตำรวจ-ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ-หน่วยข่าวกรอง-ฯลฯ)เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ที่เป็นเป้าหมายการลอบปองร้ายจากฝ่ายต่างๆที่ขัดแย้งกัน การลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ด้วยอาวุธสงคราม จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง แต่จะเกิดขึ้นอีก โดยมีบุคคลเป้าหมายที่ฝ่ายความมั่นคงน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่ามีใครบ้าง
ดังนั้น จึงต้องเร่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย (รปภ.)และการอารักขาบุคคลสำคัญทั้งนายกรัฐมนตรี-รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและแกนนำทางการเมืองกลุ่มต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ รวมทั้งการป้องกันการเกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือการลอบสังหารซ้ำซ้อนได้อีก
“เหตุการณ์การลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.นั้น ผมเห็นว่ายังไม่ถึงขั้นต้องสับเปลี่ยนโยกย้าย ผู้บัญชาการเหล่าทัพบางเหล่าทัพหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะประเทศชาติกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ผู้นำรัฐบาลควรสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดและมาตรการ รปภ.เต็มรูปแบบ และสิ่งสำคัญคือ ผบ.เหล่าทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงจะต้องสนองนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่นับจากนี้ไป เพราะที่ผ่านมายังถือว่าหละหลวมอยู่บ้าง ควรปรับปรุงแก้ไขและเข้มงวดกว่าที่ผ่านมา” นายสุชาติ กล่าว
ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า การค้าชายแดนไทย-พม่า ด่านแม่สอด-เมียวดี ยัง
คงมีการค้าปกติ ตัวเลขการค้าไม่ได้ลดลง แสดงว่าการค้าและธุรกิจชายแดนไม่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากพม่ามีการสั่งซื้อสินค้าจากพ่อค้าไทยเป็นปกติ
นายสุชาติ ตรีรัตน์วัฒนา ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก และนักธุรกิจรายใหญ่ใน อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมืองในขณะนี้ ว่า รัฐบาลควรให้หน่วยงานด้านความมั่นคง(ทหาร-ตำรวจ-ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ-หน่วยข่าวกรอง-ฯลฯ)เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ที่เป็นเป้าหมายการลอบปองร้ายจากฝ่ายต่างๆที่ขัดแย้งกัน การลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ด้วยอาวุธสงคราม จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง แต่จะเกิดขึ้นอีก โดยมีบุคคลเป้าหมายที่ฝ่ายความมั่นคงน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่ามีใครบ้าง
ดังนั้น จึงต้องเร่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย (รปภ.)และการอารักขาบุคคลสำคัญทั้งนายกรัฐมนตรี-รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและแกนนำทางการเมืองกลุ่มต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ รวมทั้งการป้องกันการเกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือการลอบสังหารซ้ำซ้อนได้อีก
“เหตุการณ์การลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.นั้น ผมเห็นว่ายังไม่ถึงขั้นต้องสับเปลี่ยนโยกย้าย ผู้บัญชาการเหล่าทัพบางเหล่าทัพหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะประเทศชาติกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่ผู้นำรัฐบาลควรสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดและมาตรการ รปภ.เต็มรูปแบบ และสิ่งสำคัญคือ ผบ.เหล่าทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงจะต้องสนองนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่นับจากนี้ไป เพราะที่ผ่านมายังถือว่าหละหลวมอยู่บ้าง ควรปรับปรุงแก้ไขและเข้มงวดกว่าที่ผ่านมา” นายสุชาติ กล่าว
ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า การค้าชายแดนไทย-พม่า ด่านแม่สอด-เมียวดี ยัง
คงมีการค้าปกติ ตัวเลขการค้าไม่ได้ลดลง แสดงว่าการค้าและธุรกิจชายแดนไม่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากพม่ามีการสั่งซื้อสินค้าจากพ่อค้าไทยเป็นปกติ