“อดีต สนนท.” สุดทน เตือน “รุ่นน้อง” ต้องรับผิดชอบ เหตุใช้ชื่อ สนนท.จัดตั้งศูนย์รับเรื่อง “แดงถ่อย” สูญหาย แถมยกตัวเลขรับแจ้งหาย 60 คนแบบลอยๆ ไร้ความรับผิดชอบ หวังใส่ไฟ"ทหาร"ฆ่าประชาชน แฉเบื้องหลังอิงแบบแก๊งการเมือง โดน"เหวง-ตู่"ชี้นำการเคลื่อนไหว
จากกรณีที่ น.ส.สุวลักษณ์ หลำอุบล กรรมการบริหารสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) จัดงานแถลงข่าวการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องคนหายในเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงโดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทหารใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ราย พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือยุบสภานั้น
ล่าสุด วันนี้ (16 เม.ย.) นายจักรวาล วรรณาวงค์ นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และกรรมการกลาง สนนท. สมัยเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ.2535 กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตผู้นำนักศึกษามาก่อน และเคยมีส่วนร่วมกับ สนนท.ในฐานะนักกิจกรรมรุ่นพี่คนหนึ่งที่ได้ติดตามการทำงานของนักกิจกรรมรุ่นน้องในนาม สนนท.มาโดยตลอด
“ปัจจุบันพบว่า สนนท.มีสภาพที่ไม่ต่างกับกลุ่มกิจกรรมเล็กๆ ที่ไม่ได้มีบทบาทต่อสังคมสาธารณะ หรือมีบทบาทเคลื่อนไหวทางการเมืองอันเป็นที่ยอมรับเหมือนในอดีต และยังไม่ได้ถือว่าเป็นตัวแทนขององค์การนักศึกษาของทุกมหาวิทยาลัยเฉกในเช่นอดีตอีกด้วย แต่การนำภาพของ สนนท.มาเคลื่อนไหวในทางการเมืองแต่ละครั้งในปัจจุบัน สร้างความไม่สบายใจให้กับนักกิจกรรมรุ่นพี่ และผู้นำนักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่างๆ กับการนำภาพรวมขององค์กรนักศึกษาไปกล่าวอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมทุกครั้ง โดยไม่แสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด”นายจักรวาล กล่าว
ส่วนเหตุการณ์ที่ สนนท. ออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้นั้น นายจักรวาล กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของ สนนท.สร้างความเคลือบแคลงให้กับสังคมส่วนใหญ่ถึงจุดยืน ว่ากำลังตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ เพราะการกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้กำลังทหารเข้าสลายการก่อการจลาจลของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ ต่างก็ได้รับการยอมรับ และมีการตรวจสอบจากสื่อสารมวลชน ตลอดจนองค์กรทั้งใน และต่างประเทศว่าการปฏิบัติการที่เกิดขึ้นนั้น กระทำถูกต้องตามแบบสากล โดยหลีกเลี่ยงความรุนแรง ทำให้ไม่เกิดความสูญเสีย ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่แม้แต่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่เป็นองค์กรหลักในการจับตาดูการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ ยังออกแถลงการณ์ยอมรับ
“ต่างจากการกระทำของม๊อบเสื้อแดงที่รุนแรง และบ้าคลั่ง กระทำการก่อการจลาจล เผาบ้าน เผาเมือง ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทำให้บ้านเมืองต้องอยู่ในภาวะอนาธิปไตย และมีจุดมุ่งหมายในการล้มล้างรัฐบาลด้วยวิธีการที่ร้ายแรง ซึ่งอารยะชนใดก็ตาม ต่างไม่อาจยอมรับการกระทำนี้ได้ ส่วนกรณีที่ สนนท.ดำเนินการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องคนหาย ก็เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ แต่ก็ควรต้องแสดงความรับผิดชอบในข้อมูลที่ได้รับแจ้งว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร ที่ไม่ใช่เป็นการปั้นแต่งข้อมูลเพื่อนำเอาคนสูญหายในเหตุการณ์ต่างๆ ทั่วประเทศ มาสวมชื่อเพื่อสร้างเป็นเงื่อนไขทางการเมือง”นายจักรวาล ระบุ
นายจักรวาล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สนนท.ควรเร่งหาหลักฐานข้อเท็จจริงมาเปิดเผยให้ได้ด้วยว่า การกล่าวหาว่ามีการสังหารประชาชนไปกว่า 60 คนนั้น มีพยานหลักฐานอะไรมาสนับสนุน ไม่ใช่กล่าวหากันลอยๆ แล้วไม่แสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่กล่าวหาออกไป ทั้งนี้ ตนอยากจะขอเตือนสติของนักกิจกรรมรุ่นน้องๆ ใน สนนท.ด้วยว่า การแสดงบทบาทใดๆ ขององค์กรในปัจจุบัน ต่างก็อยู่ในโลกของการสื่อสารด้วยข้อมูลข่าวสาร ถ้านักศึกษาผู้ใดตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร และนำเอาองค์กรออกมาเป็นแนวร่วมด้วย ย่อมปิดกั้นการตรวจสอบจากสังคม ซึ่งไม่พ้นที่จะสร้างความเสื่อมเสียให้กับนักศึกษาคนนั้นเอง
“สนนท.ก็เช่นเดียวกัน ควรหาคำตอบด้วยว่าเหตุใดจึงถูกสังคมการตั้งคำถามมากว่าทำตัวใกล้ชิดอิงแอบผู้ที่เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะเอ็นจีโอรุ่นพี่บางคนที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่ม นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่ม นปช. และนายจตุพร พรหมพันธ์ อดีตแกนนำนักศึกษารามคำแหง ที่มักมีบทบาทเข้ามาจัดตั้ง และชี้นำการเคลื่อนไหวผ่านกลุ่มกิจกรรมนักศึกษารามรุ่นน้อง สนนท.จึงควรชี้แจงจุดยืนของตนเอง และวางบทบาทของให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยในพฤติกรรมไปมากกว่านี้”นายจักรวาล กล่าว