“สมบัติ” ระบุเหตุทหารสลายการชุมนุมไม่รุนแรง ช่วยยกระดับการยอมรับ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ต่อสายตาประชาคมโลก แต่เชื่อปัญหายังไม่ยุติ ชี้ต้นเหตุปัญหาอยู่ที่ “ทักษิณ” ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ แนะรัฐรับข้อเสนอเร่งแก้รัฐธรรมนูญ ดึงบุคคลที่สังคมยอมรับเข้าร่วมปฏิรูปการเมือง
วันนี้ (15 เม.ย.) นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า การดำเนินการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ของกองทัพ มีความระมัดระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ถือเป็นการยกระดับความยอมรับในตัวรัฐบาลในสายตาประชาคมโลก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปล่อยให้ผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช.ล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก 3 และบวก 6 จนถูกมองว่ารัฐบาลอ่อนแอและบกพร่อง
นายสมบัติกล่าวต่อไปว่า ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่ยุติ เพราะต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ แต่มองว่าการต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในสายตาของประชาคมโลกถูกลดความน่าเชื่อถือลงแล้ว หลังจากการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศด้วยข้อมูลที่ไม่มีการยืนยันชัดเจน กรณีการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม
นายสมบัติกล่าวว่า เสนอให้รัฐบาลตั้งทีมขึ้นมารับมือกับการเมืองทั้งในและนอกสภา และมุ่งสร้างความเป็นเอกภาพในการบริหาราชการแผ่นดิน ทั้งของกองทัพ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมถึงเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และทุ่มเททรัพยากรในการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ลดบทบาทการสื่อสารแบบทางเดียว ในลักษณะลัทธิความเชื่อ เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในระยะยาว นอกจากนี้ยังเห็นว่ารัฐบาลควรรับข้อเสนอเรื่อง การแก้รัฐธรรมนูญ โดยให้บุคคลที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย มาร่วมกันปฏิรูปการเมืองให้เป็นที่ยอมรับ
ขณะที่ นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ให้สัมภาษณ์ว่า ขอเสนอให้รัฐบาลเชิญองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาร่วมตรวจสอบความโปร่งใสของการสลายการชุมนุมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยภายในประเทศให้กับต่างชาติ
ด้าน นายสมภพ มานะรังสรรค์ นักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากวิกฤตการทางการเมืองที่เกิดขึ้นจนมีเหตุการณ์ความรุนแรงในกรุงเทพฯ รัฐบาลต้องทำงานในการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก ต้องไม่ใช่เป็นการตั้งรับ ด้วยการกำหนดมาตรการเฉพาะหน้าและมาตรการในระยะยาว เพราะในช่วงที่ผ่านมามีแต่ข่าวในเชิงลบจากการยกเลิกการประชุมสุดยอด อาเซียนบวก 3 บวก 6 การถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งนานาประเทศกำลังจับตาดูไทย
“ต้องเดินหน้าชี้แจงชาวโลก โดยเฉพาะกำลังจับตาดูว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรให้ทุกอย่างมีความเรียบร้อย ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรดำเนินการ คือ เร่งชี้แจงประชาสัมพันธ์เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว นักลงทุน เพราะปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง แยกกันไม่ออก ควรให้น้ำหนักเหมือนกับเหรียญสองด้าน การคลี่คลายปัญหาการเมือง ก็ต้องเร่งกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ความเชื่อมั่นในประเทศกลับคืนมา” นายสมภพ กล่าว