โฆษก ทบ.แจงทหารร่วมมือตำรวจสลายม็อบปิดแยกดินแดง ตามคำสั่งห้ามปิดเส้นทางจราจรที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ย้ำใช้ปืนแค่ยิงขึ้นฟ้าข่มขวัญ ไม่ใช้อาวุธโดยตรงกับผู้ชุมนุมเด็ดขาด งงฝ่ายผู้ชุมนุมมีแก๊สน้ำตาขว้างใส่เจ้าหน้าที่ แถมซุ่มยิงปืนจากทางด่วน ขับรถเมล์ชนทหารบาดเจ็บ ย้ำหลีกเลี่ยงความรุนแรง ให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์เอเอสทีวี เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ถึงการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ล่าสุดยังคงมีที่แยกดินแดงเพียงที่เดียว โดยทหารกับตำรวจร่วมมือกัน ทั้งนี้เนื่องจากมีการปิดการจราจร ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อพี่น้องประชาชนที่ร้องเรียนมามาก โดยก่อนหน้านี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงสถานการณ์ให้พี่น้องรับทราบแล้ว ก็มีการออกประกาศห้ามมีการปิดกั้นการจราจร ปิดเส้นทางคมนาคมที่สร้างความเดือดร้อน
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการสลายการชุมนุมที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แต่ก่อนสลายการชุมนุม ก็ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านเครื่องขยายเสียงแล้ว แต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงดำเนินภารกิจจากเบาไปหาหนักอย่างที่ทราบ แต่ว่า ผู้ชุมนุมก็มีแก๊สน้ำตา มีทั้งระเบิดเพลิง และมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่เขาปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งเป็นการยิงมาจาทางด่วน ที่สำคัญคือมีการขับรถเมล์เป็นยานพาหนะพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่อีก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสลายการชุมนุม
“วิธีการปฏิบัติภารกิจคือเราใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า ขอย้ำนะครับว่ายิงขึ้นฟ้า เพื่อใช้เสียงข่มขวัญกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ได้ใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมโดยตรง ภาพจากสถานีโทรทัศน์ทั้งหลายเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงเจตนารมณ์เจ้าหน้าที่ว่า เราพยายามอย่างที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรง ให้เกิดผลกระทบและความสูญเสียน้อยที่สุด ซึ่งตอนนี้เราก็ควบคุมบริเวณทางด่วนดินแดงไว้ได้แล้ว”
ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงอ้างว่า ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนได้อธิบายชัดเจนแล้วว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจอย่างไร เพราะฉะนั้นจะเอาประเด็นที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้พูดเพื่อปลุกระดม มาถามขยายความไม่ได้
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในบริเวณชุมนุมจะมีบุคคลอยู่ 2 ประเภท คือประเภทที่ต้องการจะปลีกตัวออกจากการชุมนุมแต่ไม่กล้ากระทำ เนื่องจากแกนนำของพื้นที่นั้นจะกักไม่ให้ออก ซึ่งก่อนที่จะปฏิบัติ เราก็จะเปิดทาง คนที่พร้อมจะกลับเราก็จะส่งตัวออกนอกพื้นที่ แต่แกนนำที่อยู่ในพื้นที่ก็จำเป็นต้องจับเพื่อดำเนินคดี ส่วนจะนำไปไว้ที่ใดนั้น ขอไม่เปิดเผย เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย จะได้ไม่มีการไปชุมนุมกดดันเจ้าหน้าที่
ส่วนจุดอื่น คงมีการประเมินเป็นเวลาๆ ไป เราจะดูว่าจุดไหนสร้างปัญหาการจราจรหรือไม่ การจะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ใด จะประเมินก่อนว่าคุ้มค่าขนาดไหน จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ชุมนุมแค่ไหน รัฐบาล และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้เน้นย้ำตลอดว่า จะไม่ใช่อาวุธกับผู้ชุมนุมโดยตรง ใช้แค่ยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ต้องระมัดระวัง ทั้งนี้ ตำรวจและทหารจะยังคงประสาน ร่วมกันต่อไป
