ไร้ขื่อแป! ไอ้กี้แดงถ่อยขู่เด็ดหัว “นายกฯ” ขีดเส้นลาออกภายใน 2 ชั่วโมง

ถ่อยแดงไร้วัฒนธรรม นำโดย “ไอ้กี้ อมฮอลล์” บุกเข้ายังภายโรงแรมที่ประชุมอาเซียนซัมมิทแล้ว พร้อมขู่เอาชีวิต “อภิสิทธิ์” หากไม่ลาออกภายใน 2ชั่วโมง และเรียกร้องให้จับตัวคนยิงสมุนให้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 11 เม.ย. กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำฯ และหัวหน้าทีมไล่นายกฯ ของกลุ่ม นปช. ได้นำผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นของทหาร ด้านหน้าโรงแรมรอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา มาประชิดประตูทางเข้าตัวอาคารพีช ซึ่งเป็นศูนย์สื่อมวลชนในการประชุมอาเซียนบวก3 บวก 6 โดยมีทหารยืนปิดบริเวณหน้าทางเข้าซึ่งเป็นกระจกใส

จากนั้นเวลา 13.00 น.กลุ่มคนเสื้อแดงใช้ผู้ชุมนุมที่เป็นผู้ชายฉกรรจ์ดันแนวกั้นของทหารทำให้เกิดการผลักดันกันอยู่ประมาณ 5 นาที จนทำให้ทหารต้องใช้กระจกเป็นที่พิง จนในที่สุดกลุ่มเสื้อแดงที่จำนวนคนมากกว่าดันจนทหารทะลุกระจกจนกระจกแตกร่วงกราวมากองกับพื้น จนทำให้ผู้ชุมนุมผู้ที่เป็นแผงหน้าถลำทะลุกระจกไปพร้อมกับแรงดันจนถูกเศษกระจกบาดเลือดอาบหลายคน และทำให้คนเสื้อแดงได้ทะลักเข้ามาภายอาคารโรงแรม ทำให้เจ้าหน้าและผู้สื่อข่าวที่อยู่ภายในต่างวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง เพื่อเก็บอุปกรณ์การทำงาน

ทั้งนี้เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาได้ก็พากันตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ นายอริสมันต์ได้ตีศอกใส่ทหารนายหนึ่งก่อนที่จะมีผู้ชุมนุมคนที่เดินตามนายอริสมันต์เข้ามาล็อคตัวทหารนายดังกล่าวเอาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมชุดแรกได้แยกย้ายกันค้นหาตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพยายามจะเข้ามาภายในศูนย์สื่อมวลชนซึ่งมีนักข่าวไทยและต่างชาติจำนวนหลาย ร้อยคนกำลังทำงานอยู่ แต่ได้มีผู้สื่อข่าวบางคนต้องอธิบายกับผู้ชุมนุมว่านายกฯไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ผู้ชุมนุมก็ไม่เชื่อและดื้อดึงจะเข้ามา จนทำให้เพื่อนที่มาด้วยกันบอกว่าอย่าเข้าไปในนั้นเพราะนายกฯไม่อยู่จริงๆ

นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้พากันกระจายกำลังค้นหานายอภิสิทธิ์แทบทุกห้อง จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติผู้หญิงที่กำลังยืนอุ้มลูกถึงกับร้องไห้ เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้าย อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมต่างช่วยกันเตือนกันเองว่าอย่าทำลายข้าวของของโรงแรม

และนอกจากนี้มีคนเสื้อแดงผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปต่อว่าผู้สื่อข่าวของช่อง 9 ที่ กำลังรอเวลาถ่ายทอดสด โดยบอกว่าให้ความเป็นธรรมกับคนเสื้อแดงหน่อย จึงทำให้เกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย และเพื่อนๆ ก็มาดึงตัวคนเสื้อแดงคนนั้นออกไป

หลังจากค้นตึกพีชเรียบร้อยกลุ่มเสื้อแดงส่วนหนึ่งได้มุ่งหน้าต่อไปยังอาคารที่เป็นอาคารที่ใช้สำหรับประชุมและคาดว่านายอภิสิทธิ์จะอยู่ที่นั่น แต่ทว่าบริเวณตึกดังกล่าวยังมีกำลังทหารยืนป้องกันเป็นจุดๆ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็หลบหลีกจนถึงหน้าอาคารที่ประชุม แต่บริเวณหน้าอาคารมีทีมตำรวจมีอาวุธครบมือ จำนวน 3 นาย รักษาความปลอดภัยอยู่ โดยมี 1 ใน 3 ได้ ซึ่งศีรษะโล้นใช้นำอาวุธปืนพกสั้นอยู่ในท่าเตรียมพร้อมยิงจ่อไปยังผู้ชุมนุม และบอกคนเสื้อแดงว่า “หยุดหยุด อย่าเข้ามา” และได้ขึ้นลำเตรียมยิง ทำให้ผู้ชุมนุมต้องหยุดชะงักและนั่งขัดสมาธิลงกับพื้น จนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ตามสมทบโวยวายว่าเอาจ่อได้อย่างไร ซึ่งตำรวจอีก 2 นายที่เหลือจึงเข้ามาห้ามและต้องพาตัวเข้าไปในอาคารเพราะหวั่นจะเกิดความรุนแรงมากขึ้น

จากนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ที่อยู่ในอาคารดังกล่าวได้ออกมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมและรับปากจะรีบดำเนินการเรื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมถูกยิงจากเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเช้า ทำให้ผู้ชุมนุมยอมถอยออกจากบริเวณหน้าตึกที่ประชุม

จากนั้น เวลา 13.15 น. นายอริสมันต์ ได้กลับมาแถลงที่โพเดียมอาเซียนท่ามกลางการห้อมล้อมและโห่ร้องของคนเสื้อแดงว่า ที่ตนเข้ามาที่โรงแรมนี้เพราะประกาศเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้วให้รัฐบาลตอบคำถามเรื่องที่คนเสื้อแดงตาย จึงต้องบุกเข้ามาข้างใน เพราะเราเชื่อว่าคนที่ทำให้คนเสื้อแดงตายเมื่อช่วงเช้าคือทหาร แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดของคนตายได้ (ความจริงไม่ได้เสียชีวิต) บอกได้แค่ว่าตายที่โรงพยาบาลบางละมุงเท่านั้น อย่างไรก็ตามคนเสื้อแดงพร้อมรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นทุกอย่าง แต่รัฐบาลต้องร่วมรับผิดชอบด้วย โดยหลังจากนี่หากเจอนายอภิสิทธิ์ที่ไหนจะจับกุมตัวทันที

ทั้งนี้ นายอริสมันต์ได้แถลงอ้างว่า มีแท็กซี่เสื้อแดง 2 รายถูกยิงบาดเจ็บ และเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จับตัวผู้ยิงมาให้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง โดยขู่ว่าจะเล่นงานนายอภิสิทธิ์เพียงผู้เดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงได้ประชิดอาคารสถานที่ประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา หลังจากก่อนหน้านี้มีการเจรจาระหว่าง นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ ซึ่งเข้ามาแถลงข่าวภายในอาคารที่ประชุม หลังจากนี้ นายทหารคนหนึ่งนำโทรศัพท์ให้นายอริสมันต์ หลังจากสอบถามนายอริสมันต์และนายทหารคนดังกล่าว ทราบว่าเป็นสายของผู้บัญชาการทหารบก

โดยเนื้อหาการพูดคุย นายอริสมันต์กล่าวว่า นปช.สามารถทำอะไรก็ได้ภายในเวลา 2 ชั่วโมง พร้อมยื่นเงื่อนเวลาภายใน 2 ชั่วโมง หากนายกรัฐมนตรีไม่ลาออก ไม่แสดงความรับผิดชอบ กลุ่ม นปช.จะไม่รับผิดชอบความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้สมาชิก นปช.เข้ามาในที่ประชุมโดยไม่มีเงื่อนไข หากภายใน 1-2 ชั่วโมง ต่อจากนี้ หากไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่จะเอาผิดกับผู้ก่อเหตุปะทะระหว่างกลุ่มเสื้อแดงกับกลุ่มเสื้อน้ำเงิน จะไม่รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น อีกทั้งย้ำว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนในครั้งนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน โดยข้อเรียกร้องของม็อบเสื้อแดงต้องการให้ยุติการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นผู้นำชาติต่างๆ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้เดินทางออกจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของนายอภิสิทธิ์ ได้แถลงข่าวผ่านทางช่อง 9 เพื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉฺกเฉินฯ ในห้องห้องหนึ่งในโรงแรมรอยัลคลิฟบีช และได้เดินทางอกจากโรงแรมโดยชึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังสนามบินอู่ตะเภาเพื่อส่งผู้นำชาติอาเซียนขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ

ทั้งนี้เมื่อคนเสื้อแดงที่อยู่ในโรงแรมเมื่อทราบว่ามีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว จึงพากันโห่ร้องด้วยความดีใจ และมีการประกาศว่า “เราชนะแล้วเราจะกลับไปที่บิ๊กซีกัน” จากนั้นคนเสื้อแดงได้ถอนกำลังออกไปทั้งหมดไปรวมตัวกันที่ด้านหลังบิ๊กซีพัทยา

ปรากฏว่าเมื่อคนเสื้อแดงออกไปจากโรงแรมทั้งหมดก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศกลับเข้ามาที่โรงแรมอีก จึงทำให้ผู้สื่อข่าวไม่สามารถสอบถามหรือประสานเจ้าหน้าที่ได้ มีเพียงพนักงานของโรงแรมเท่านั้นที่นำอาหารว่างและเครื่องดื่มมาเสริ์ฟให้ผู้สื่อข่าวเท่านั้น