“ชินวรณ์” ชี้ เจตนา “แดงถ่อย” ชุมนุมหวังพยายามเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ตั้งรัฐไทยใหม่ ระบุ สถานการณ์อาจถึงจุดต้องการล้มทุน ล้มเจ้า วอน ส.ส.เพื่อแม้ว ใช้เวทีสภาแก้ปัญหา เล็งดึงเรื่องเข้าหารือที่ประชุมสภา เผยตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงถึงการติดตามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า จากการติดตามการชุมนุมตั้งช่วงเช้า พบว่า กระบวนการของการชุมนุมนั้น พยายามนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง สอดรับกับการที่แกนนำออกมาพูดหลายครั้ง ทั้งการเปลี่ยนแปลงรัฐไทยใหม่ หรือการปลุกระดมให้เห็นว่าประเทศไทยในขณะนี้ไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อย่างต่อเนื่อง อาจจะนำไปสู่จุดที่มีบุคคลต้องการล้มทุน ล้มเจ้า ก็ได้ ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่า ประเทศไทยขณะนี้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และระบบรัฐสภาก็ยังสามารถทำหน้าที่แก้ไขปัญหารวมทั้งหาทางออกให้กับประเทศได้ แม้ว่าจะมีการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงก็ตาม แต่การทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นจะต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้ได้
“ขอเรียกร้อง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า ให้ร่วมกันใช้เวทีสภาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่าได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชนแต่กลับไม่ใช้เวทีสภาในการร่วมกันแก้ปัญหาของบ้านเมือง” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าควรใช้เวทีสภาเป็นพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างมีเหตุผล ไม่ปล่อยให้อยู่ภายใต้การยุยงปลุกปั่นนำไปสู่บ้านเมืองแตกแยก เพราะการเรียกร้องของบุคคลคนเดียวจะปล่อยให้มีการทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ในการประชุมสภาวันนี้ (8 เม.ย.) จะมีการหารือกับประธานสภาเพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส.สะท้อนปัญหาของประชาชนในสถานการณ์ดังกล่าวด้วย เพื่อหาทางแก้ไขโดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์ช่อง 11 ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งขณะนี้วิปรัฐบาลตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งรับทราบข้อมูลจากรัฐบาล ว่า ยังสามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมได้
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนจะหาทางออกทางรัฐสภาได้ ไม่ว่าการนำเสนอบุคคลในการปฏิรูปการเมือง หรือการหยิบยกผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มาพิจารณา ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถถอดสลักของปัญหาที่เรียกร้องอยู่ได้