xs
xsm
sm
md
lg

“เทพเทือก” เย้ย “นช.แม้ว” ฝันแตกหัก 8 เม.ย. เชื่อฝ่อไปเอง เหตุคนไทยจงรักภักดีต่อสถาบันฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุเทพ เทือกสุบรรณ
“สุเทพ” อัด “แม้ว” ปลุกเสื้อแดงเคลื่อนไหวจาบจ้วงสถาบันฯ ทำเสียภาพลักษณ์และความรู้สึกของคนไทย เชื่อสุดท้ายเสื้อแดงจะฝ่อไปเอง เหลือไม่กี่หมื่นคน เพราะคนไทยจงรักภักดีต่อสถาบันฯ สูงสุด ยัน รบ.ไม่ใช้ความรุนแรงเด็ดขาด ไม่ว่าจะถูกยั่วยุอย่างไร


วันนี้ (6 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงก์โจมตีสถาบันองคมนตรีอย่างต่อเนื่องว่า ตนไม่กังวลใจ เพียงแต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณปลุกคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งทำให้เสียภาพลักษณ์ต่อประเทศ เสียความรู้สึกของคนไทย และเราไม่อยากให้คนไทยมีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าในที่สุดคนส่วนใหญ่ได้แสดงท่าทีอย่างชัดเจน แต่คนจำนวนไม่กี่หมื่นคนคงจะฝ่อไปเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื้อหาการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณกระทบความมั่นคงของชาติหรือยัง นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลพยายามป้องกกันเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงได้มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนันผู้ ใหญ่บ้าน ได้ไปประชุมและชี้แจงต่อประชาชนให้เข้าใจข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เราไม่ได้ทำเพื่อความมั่นคงของรัฐบาล แต่เราดูแลความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ ข้าราชการทุกกระทรวงทบวงกรมก็ต้องชี้แจงผู้ใต้บังคับบัญชา ครอบครัว ให้ทราบข้อเท็จจริง อย่างตกเป็นเหยื่อ มายุยงปลุกปั่น

เมื่อถามว่า ในการชุมนุมใหญ่วันที่ 8 เมษายนนี้ คิดว่าจะมีพลังอะไรมาทำให้สถานการณ์แตกหักอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณคิดหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดจายั่วยุท้าทาย แต่ตนมั่นใจในความเป็นคนไทยในความรักความสามัคคีของคนไทย ไม่มีใครจะมาเปลี่ยนแปลงได้ ที่คิดจะโค่นล้มระบอบการปกครอง เปลี่ยนรูปแบบการปกครองใหม่ มันเป็นไปไม่ได้ คนเหล่านั้นเพ้อฝันไป คนไทยเขาไม่ยอม เรายอมรับในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ที่เป็นสุดวิเศษเลิศเลอที่สุดแล้ว ซึ่งรัฐบาลยืนยันจะปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย จะไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าทางใดผู้ชุมนุมจะมีการยั่วยุอย่างไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐจะตื่นตัวอยู่เสมอจะคอยเฝ้าระวัง ใช้กำลังดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ พร้อมกับดูแลให้คนไม่ทำผิดกฎหมาย

เมื่อถามต่อว่า พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณหมิ่นสถาบัน นายสุเทพกล่าวว่า รัฐบาลได้ติดตามดูอยู่ทุกวัน ซึ่งก็จะดำเนินการตามกฎหมาย หากว่ามีการพูดจาที่เข้าข่ายว่าผิดกฎหมายเราก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อถามว่าได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นไปตามแผนตากสิน ที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวเรื่องเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและปัญหายาเสพติด รัฐบาลเตรียมตั้งรับอย่างไร หากมีการเดินตามแผนนี้ นายสุเทพกล่าวว่า หากเมื่อก่อนเราไม่รู้ว่าแผนตากสินจะเป็นจริงหรือไม่จริงอย่างไร แต่เมื่อสื่อมวลชนเปิดเผยเรื่องแผนตากสิน และได้ติดตามพฤติกรรม ก็พบว่าสอดคล้องกับแผนตากสิน ดังนั้น รัฐบาลได้ให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าจะปกป้องพี่น้องประชาชน จะปกป้องประเทศให้มีความมั่นคง รวมทั้งเรื่องปัญหายาเสพติดด้วย เราไม่ได้ละเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าหลังเทศกาลสงกานต์ปัญหาจะยุติหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อยู่ที่ผู้ชุมนุมซึ่งเราไม่ได้ใช้วิธีการปราบปราม เราพยายามดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงเท่านั้นเอง เมื่อถามว่า หากปล่อยให้ยืดเยื้อก็จะไม่เป็นผลดีต่อประเทศและเศรษฐกิจ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้ปล่อยให้ยืดเยื้อ เป็นปัญหาที่ฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงจะดำเนินการอย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลปล่อยหรือไม่ปล่อย ทั้งนี้ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้กล้าๆกลัวๆในการบังคับใช้กฎหมาย เราทำอย่างเต็มที่ เช่น เมื่อผู้ชุมนุมมาปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เราก็ถือว่ามาชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ก็เป็นสิทธิที่จะชุมนุมได้ แต่การที่ปิดทางไม่ให้ข้าราชการเข้าไปทำงาน มีการตรวจค้นคนอื่นแทนที่รัฐบาลจะใช้กำลังเข้าไปสลาย เราก็ไม่ทำแต่ไปฟ้องศาล หากซึ่งศาลมีคำสั่งให้เปิดทาง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ทำไม่ปฏิบัติตาม เราก็ไม่ใช้กำลัง แต่กลับไปฟ้องศาลใหม่ ศาลก็สั่งให้กรมบังคับคดีมาบังคับคดี ซึ่งตอนนี้เราก็รออยู่ ซึ่งจะมาบังคับคดีในวันพรุ่งนี้ (7 เมษายน)

เมื่อถามว่า คิดว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลขณะนี้ ช้ากว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า หากจะช้าหรือเร็วก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย รัฐบาลจะลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายไม่ได้ เพราะเราเป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ที่ยึดหลักนิติธรรมเป็นหลัก เมื่อถามว่าคิดว่าจะซ้ำรอย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯ หรือไม่ ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนส่วนน้อยจริงๆ จะมีกี่หมื่นก็แล้วแต่ หากเปรียบเทียบกับคน 60 กว่าล้านคน มันคนละอย่างกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น