ตำรวจประชุมหามาตรการป้องกันเหตุ นักศึกษาช่างกลก่อเหตุยิงกันไม่เลิก ระบุจะต้องติดตามจับกุมนักศึกษารุ่นพี่ที่ส่วนใหญ่ถูกดร็อปการเรียน แต่ยังเข้าไปมั่วสุมในสถาบัน คอยยุยงปลุกปั่นรุ่นน้องในทางที่ผิด
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้เรียกประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการหาแนวทางป้องกันปัญหานักศึกษาช่างกลก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ประกอบด้วย พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารสถานศึกษาชื่อดัง 4 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน สถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค และสถาบันเทคโนโลยีดุสิต
หลังใช้เวลาหารือร่วมกันนานประมาณ 2 ชั่วโมง พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง 2 สถาบัน ทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อสรุปว่า จะใช้กฎหมายในการดำเนินการเอาผิดกับนักศึกษาที่ก่อเหตุรวมถึงกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ถูกพักการเรียนและเรียนจบแล้ว ที่คิดจะมาปลูกฝั่งรุ่นน้องให้กระทำความผิด รวมถึงการมั่วสุมในสถาบันศึกษา เพราะเท่าที่ได้ฟังจาก พ.ต.อ.ไพศาล ทราบว่านักเรียนที่เข้ามาในสถาบันส่วนใหญ่เป็นนศ.ที่ถูกดร๊อปการเรียน และนศ.ที่ออกจากสถาบันไปแล้ว เข้ามามั่วสุมกินเหล้า ยุยงรุ่นน้อง สร้างทัศนคติที่ผิดๆ ข่มขู่รุ่นน้องไม่เว้นแม้กระทั่งอาจารย์
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า ทางอาจารย์ก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยข้อมูลต่างๆให้กับตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย ตนเชื่อว่าผู้บริหารทุกสถาบันอยากเห็นความสำเร็จลูกศิษย์ในเชิงสร้างสรรค์พัฒนา ไม่ต้องการให้ไปเข่นฆ่าทำลายล้างใคร นอกจากนี้ เมื่อเกิดเหตุแล้วสถาบันก็จะต้องเกิดความหวาดระแวงไม่รู้ว่าจะถูกตามมาล้างแค้นเอาคืนวันไหน สำหรับผู้ที่ก่อเหตุยิง นศ.ปทุมวัน จะใช่เด็กอุเทนถวายหรือไม่ก็ยังไม่มีใครทราบต้องรอให้ตำรวจจับกุมตัวได้เสียก่อน จะได้ไม่เป็นการปรักปรำ ที่สำคัญผู้ที่ถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตายหรือบาดเจ็บก็มักจะเป็นเด็กดี ไม่มีเรื่องกับใคร
“ผมไม่รู้ว่าเด็กที่ทำร้ายผู้อื่น ข่มขู่ทำร้ายแม้กระทั่งอาจารย์ จะสามารถเรียกว่าลูกศิษย์ได้หรือไม่ กลุ่มคนเหล่านี้ที่เป็นรุ่นพี่ที่เคยเรียน แล้วเอาแนวคิดผิดๆ มาปลูกฝังรุ่นน้อง ไม่ได้เรียกว่ารักหรือทำเพื่อสถาบัน แต่มันเป็นการล้างแค้น ถ้าคนที่รักสถาบันจะต้องเอาเด่นเอาดีอีกอย่างหนึ่ง รุ่นพี่ที่ดีต้องไม่สอนน้องแบบนี้ การกระทำที่เกิดขึ้นขณะนี้มันมีแต่ความแค้น ความอิจฉา เหมือนพวกโรคจิต นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่ากลุ่มรุ่นพี่พยายามสร้างลัทธิใหม่ให้กับรุ่นน้องในสถาบัน โดยการเอาเหล็กเฟืองจี้ที่หน้าอกและแขนของรุ่นน้อง โดยปลูกฝังค่านิยมที่ว่า หากใครมีสัญลักษณ์ดังกล่าวจะถือว่าเป็นฮีโร่ในกลุ่ม ซึ่งเป็นค่านิยมที่ผิดอย่างมาก” พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าว
สาเหตุโดยสรุปตอนนี้ก็คือ ทางอาจารย์ไม่กล้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เข้าไปดำเนินการดูแลความเรียบร้อยในสถาบันดังกล่าวโดยใช้กฎหมายเป็นแนวทางในการปฏิบัติ สำหรับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาดกับผู้กระทำผิดหรือผู้ที่ก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทขึ้นอีก สำหรับคดีที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการจับกุมตัวคนร้ายต่อไป
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้เรียกประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการหาแนวทางป้องกันปัญหานักศึกษาช่างกลก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ประกอบด้วย พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารสถานศึกษาชื่อดัง 4 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน สถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค และสถาบันเทคโนโลยีดุสิต
หลังใช้เวลาหารือร่วมกันนานประมาณ 2 ชั่วโมง พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทระหว่าง 2 สถาบัน ทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อสรุปว่า จะใช้กฎหมายในการดำเนินการเอาผิดกับนักศึกษาที่ก่อเหตุรวมถึงกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ถูกพักการเรียนและเรียนจบแล้ว ที่คิดจะมาปลูกฝั่งรุ่นน้องให้กระทำความผิด รวมถึงการมั่วสุมในสถาบันศึกษา เพราะเท่าที่ได้ฟังจาก พ.ต.อ.ไพศาล ทราบว่านักเรียนที่เข้ามาในสถาบันส่วนใหญ่เป็นนศ.ที่ถูกดร๊อปการเรียน และนศ.ที่ออกจากสถาบันไปแล้ว เข้ามามั่วสุมกินเหล้า ยุยงรุ่นน้อง สร้างทัศนคติที่ผิดๆ ข่มขู่รุ่นน้องไม่เว้นแม้กระทั่งอาจารย์
พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวอีกว่า ทางอาจารย์ก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยข้อมูลต่างๆให้กับตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย ตนเชื่อว่าผู้บริหารทุกสถาบันอยากเห็นความสำเร็จลูกศิษย์ในเชิงสร้างสรรค์พัฒนา ไม่ต้องการให้ไปเข่นฆ่าทำลายล้างใคร นอกจากนี้ เมื่อเกิดเหตุแล้วสถาบันก็จะต้องเกิดความหวาดระแวงไม่รู้ว่าจะถูกตามมาล้างแค้นเอาคืนวันไหน สำหรับผู้ที่ก่อเหตุยิง นศ.ปทุมวัน จะใช่เด็กอุเทนถวายหรือไม่ก็ยังไม่มีใครทราบต้องรอให้ตำรวจจับกุมตัวได้เสียก่อน จะได้ไม่เป็นการปรักปรำ ที่สำคัญผู้ที่ถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตายหรือบาดเจ็บก็มักจะเป็นเด็กดี ไม่มีเรื่องกับใคร
“ผมไม่รู้ว่าเด็กที่ทำร้ายผู้อื่น ข่มขู่ทำร้ายแม้กระทั่งอาจารย์ จะสามารถเรียกว่าลูกศิษย์ได้หรือไม่ กลุ่มคนเหล่านี้ที่เป็นรุ่นพี่ที่เคยเรียน แล้วเอาแนวคิดผิดๆ มาปลูกฝังรุ่นน้อง ไม่ได้เรียกว่ารักหรือทำเพื่อสถาบัน แต่มันเป็นการล้างแค้น ถ้าคนที่รักสถาบันจะต้องเอาเด่นเอาดีอีกอย่างหนึ่ง รุ่นพี่ที่ดีต้องไม่สอนน้องแบบนี้ การกระทำที่เกิดขึ้นขณะนี้มันมีแต่ความแค้น ความอิจฉา เหมือนพวกโรคจิต นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่ากลุ่มรุ่นพี่พยายามสร้างลัทธิใหม่ให้กับรุ่นน้องในสถาบัน โดยการเอาเหล็กเฟืองจี้ที่หน้าอกและแขนของรุ่นน้อง โดยปลูกฝังค่านิยมที่ว่า หากใครมีสัญลักษณ์ดังกล่าวจะถือว่าเป็นฮีโร่ในกลุ่ม ซึ่งเป็นค่านิยมที่ผิดอย่างมาก” พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าว
สาเหตุโดยสรุปตอนนี้ก็คือ ทางอาจารย์ไม่กล้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการก็ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เข้าไปดำเนินการดูแลความเรียบร้อยในสถาบันดังกล่าวโดยใช้กฎหมายเป็นแนวทางในการปฏิบัติ สำหรับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาดกับผู้กระทำผิดหรือผู้ที่ก่อเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทขึ้นอีก สำหรับคดีที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการจับกุมตัวคนร้ายต่อไป