“ประสงค์” ผ่าแผน “แม้ว” ปลุกสาวกทำสงคราม ปชช.หวังล้มล้าง “สถาบัน”

“ประสงค์” ผ่าแผน “นช.แม้ว” เดินเกมโฟนอินปลุกระดมถ่อยแดงชุมนุมใหญ่ทำสงครามประชาชน 8 มี.ค.นี้ หวังล้มล้าง “สถาบัน” ก่อนซัด “บิ๊กแนม” ไร้สาระ หากอาสาเคลียร์ปัญหาให้ “นักโทษหนีคุก” เผยสุดผิดหวัง ปชป.หัวหดกลัวตกจากอำนาจ เหตุยอมไม่จัดการกับคนที่ทำผิดกฎหมาย
 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ให้สัมภาษณ์  

วานนี้ (5 เม.ย.) น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ในรายการ “จับตา(ย)” ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 21.30-22.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินปลุกระดมกลุ่มเสื้อแดง ให้ทำสงครามประชาชนในวันที่ 8 มี.ค.นี้ว่า จุดประสงค์ของการโฟนอินปลุกระดมของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอยู่ 3 ประการสร้าง คือ 1.การสร้างความหวังให้กับประชาชน โดยใช้เงินด้วยทอง 2.ยังความกลัว ก็คือ กรณีขู่ให้กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ และ 3.ยั่วให้เกลียด คือ ยุประชาชนให้เกิดความเกลียดชัง

“ฉะนั้น การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ รวบรวมคนเหล่านี้มาก็เพื่อที่จะล้มล้างประเทศ โดยจะเปลี่ยนแปลงใหม่ให้มีมาตรฐานเดียวกัน นั่นหมายถึงเขาคือกบฏทั้งในราชอาณาจักร และนอกอาณาจักร และยังมีเจตนาที่จะจ้องล้มล้างรัฐธรรมนูญ ผมอยากถามรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าตั้งแต่กลุ่มเสื้อแดงเขาชุมนุมกัน แล้วระบุว่าจะล้มล้างระบอบอมาตยาธิปไตยนั้น ถือเป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขใช่หรือไม่” น.ต.ประสงค์ กล่าว

น.ต.ประสงค์ กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวแล้วรักพรรคประชาธิปัตย์มาก แต่พรรคประชาธิปัตย์นิ่งเฉย ไม่ยึดหลักกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเอารถเครนมายกตู้คอนเทนเนอร์ของตำรวจทิ้งลงไปในคลอง ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉย รวมทั้งกรณีที่เขาปิดทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ทั้งๆ ที่ศาลสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดทางแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมเปิดประตู ซึ่งถือว่าขัดคำสั่งศาล

ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาวิเคราะห์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังยั่วยุให้ใช้รัฐบาลกำลัง หรือใช้ความรุนแรงกับกลุ่มเสื้อแดงนั้น น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ตนคิดว่าตำรวจต้องทำตามกฎหมาย ไม่ใช่เอาปืนไปไล่ยิงเขา ประกอบกับเขาพูดจาจาบจ้วง ละเมิดสิทธิของคนอื่น รวมทั้งยังจาบจ้วงสถาบัน และพูดกระทบไปถึงองคมนตรี ที่สำคัญยังมีการระบุว่า ให้มีการยกเลิกองคมนตรี ทั้งๆ ที่องคมนตรี นั้น อยู่ในหมวดพระมหากษัตริย์

“ยิ่งไปกว่านั้น องคมนตรีชุดดังกล่าว พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งมา นั่นหมายถึงทำให้กระทบกระเทือนไปถึงพระราชอำนาจ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลบริหารงานไม่เป็น เอาแต่อ้างว่ารัฐบาลยึดในหลักของกฎหมาย แต่ความเป็นจริงคงกลัวว่าจะเกิดเรื่อง เนื่องจากต้องการที่จะเป็นรัฐบาลไปนานๆ” อดีตเลขาฯ สมช. ระบุ

อดีตเลขาฯ สมช.กล่าวอีกว่า คนในพรรคประชาธิปัตย์ได้แต่พูด แต่ไม่ยอมรับฟัง ซึ่งโดยส่วนตัวรู้สึกเสียดายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงเป็นอย่างมาก เพราะเขาดูแลแต่ความมั่นคงแค่ของตัวเอง ไม่ได้ดูแลเรื่องความมั่นคงแห่งรัฐ ส่วนบทบาทของทหาร นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ถ้ารัฐบาลซึ่งมีอำนาจรัฐ แต่กลับกลัว จึงไม่ยอมใช้ทหารเกี่ยวกับความมั่นคง ถามว่าจนป่านนี้จับคนที่เอารถเครนมายกตู้คอนเทนเนอร์ไดแล้วหรือยัง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ ตนแนะนำให้รัฐบาลอยู่บ้านจะดีกว่า เพราะความเสียหายด้านความมั่นคงของชาติบ้านเมือง รัฐบาลต้องไม่นิ่งเฉยดังเช่นทุกวันนี้

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องบิ๊กแนมพยายามที่จะเคลียร์ปัญหากับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษ ไม่ใช่นักการเมือง ที่สำคัญคือ พ.ต.ท.ทักษิณ โดนคดีอาญา ซึ่งศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว ถามว่าแล้วจะไปเจรจาอะไรกับเขา และที่ทูตจากอเมริกาซึ่งเข้าพบกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นั้นตนไม่ขอพูด และที่ทูตจากประเทศจีนเดินทางเข้าไปพบกับ พล.อ.เปรม นั้น เพราะเขาเพิ่งได้รับตำแหน่งใหม่ และที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ประธานองคมนตรีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด